posttoday

ธนารักษ์ โชว์เก็บรายได้ปีงบ 67 พุ่ง 1.4 หมื่นล้าน ทะลุเป้า 25% สูงสุดในรอบ 91 ปี

30 กันยายน 2567

เผ่าภูมิ เผยธนารักษ์ จัดเก็บรายได้พุ่ง 14,378 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในรอบ 91 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งกรมฯ เกินเป้าหมายถึง 25% ผลจากการเร่งรัดการประมูลที่ราชพัสดุ

วันที่ 30 กันยายน 2567 เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ปีงบประมาณ 2567 ว่า สามารถจัดเก็บรายได้จำนวน 14,378 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 57.9% สูงกว่าประมาณการ 25.4% สูงที่สุดในรอบ 91 ปี ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งกรมธนารักษ์ โดยเป็นผลจากการเร่งรัดการประมูลที่ราชพัสดุทั่วประเทศ การต่อสัญญาผู้เช่ารายใหญ่อย่างมียุทธศาสตร์ การเพิ่มพื้นที่การจัดหาประโยชน์ รวมถึงค่าทดแทนเวนคืนที่ดินต่างๆ

 

โดยมีจำนวนผู้เช่าที่ราชพัสดุ 225,820 ราย แบ่งเป็นเชิงสังคม 86% และเชิงพาณิชย์ 14% หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้ กรมธนารักษ์มีรายได้จากเชิงพาณิชย์สูงถึง 98% และเชิงสังคม 2% 

 

ทั้งนี้กรมธนารักษ์ได้มอบค่าเช่าราคาต่ำให้แก่ที่ราชพัสดุเพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อประกอบการเกษตร เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์
 

ขณะที่ กรมธนารักษ์ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่การจัดหาประโยชน์ในที่ราชพัสดุปีละ 9-10% โดยเร่งเรียกคืนที่ราชพัสดุในครอบครองของหน่วยงานรัฐ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในปีงบ 2567 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จราว 24,000 ไร่ ซึ่งในส่วนนี้จะนำมาสู่การจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

 

โดย ตั้งเป้ารายได้รวม 55,000 ในแผนระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2570 โดยเร่งเพิ่มค่าเช่าสำหรับเพื่อการพาณิชย์ของภาคเอกชนโดยมีเป้าหมาย ROA (Return on Asset) ที่ 3% แต่ยังคงดำเนินนโยบายค่าเช่าผ่อนปรนให้กับประชาชนที่เช่าในเพื่อที่อยู่อาศัยและเกษตรกรรม

"ในปีงบประมาณ 2568 กรมธนารักษ์จะดำเนินโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ มอบสัญญาเช่าที่ดินที่ราคาต่ำให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เราตั้งเป้าทำให้ดีขึ้น เร็วขึ้น มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและอาชีพให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย" รมช.คลัง กล่าว

ด้าน นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์สามารถจัดเก็บรายได้เพื่อนำส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ต.ค. 66 – 23 ก.ย. 67) เป็นจำนวน 14,378.712 ล้านบาท หรือมากกว่าเป้าหมาย 2,878.712 ล้านบาท คิดเป็น 125.03% ของประมาณการรายได้ทั้งปี 

 

ซึ่งรายได้จำนวนดังกล่าว ประกอบด้วย การจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านที่ราชพัสดุ และการจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์ โดยรายได้จากภารกิจด้านที่ราชพัสดุ จำนวน 13,442.615 ล้านบาท คิดเป็น 125.63% โดยมาจากรายได้ปกติที่เป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 10,601.717 ล้านบาท และรายได้พิเศษ จำนวน 3,776.995 ล้านบาท อาทิ ค่าเวนคืนที่ดินเพื่อการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าของการไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ค่าทดแทนภาระในอสังหาริมทรัพย์ของ รฟม. การต่ออายุสัญญาจากค่าเช่าส่วนเพิ่ม 

และค่าธรรมเนียมต่ออายุสัญญาของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด การเวนคืนที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน การประมูลขายทรัพย์สินที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาล และส่วนแบ่งรายได้จากบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด 

 

ทั้งนี้ ในส่วนการจัดเก็บรายได้จากภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์ สามารถจัดเก็บรายได้ จำนวน 936.097 ล้านบาท คิดเป็น 117.01% ของประมาณการทั้งปี โดยมาจากรายได้ปกติ จำนวน 743.597 ล้านบาท และรายได้พิเศษ จำนวน 192.500 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายกรมธนารักษ์ในการจัดเก็บรายได้ ในปีงบประมาณ 2568 จะตั้งเป้าไว้ที่ 11,600 ล้านบาท