posttoday

"นฤมล" เปิดงาน FARM EXPO 2024 ดันสินค้าเกษตรไทยมีมูลค่าสูงขึ้น

03 ตุลาคม 2567

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตร เปิดงาน FARM EXPO 2024 พร้อมยกระดับสินค้าเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น เผย “จีน-ญี่ปุ่น“และโซนตะวันออกกลาง ยังต้องการสินค้าจากไทยอีกมาก ขอทุกภาคส่วนร่วมมือทำให้เกษตรกรไทยเติบโตยิ่งขึ้น

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ฟาร์มเอ็กซ์โป 2024 (FARM EXPO 2024) ภายใต้ธีม REVOLUTIONISING FARM BUSINESS มุ่งเน้นการสร้างวิสัยทัศน์ใหม่นำเกษตรกรสู่นักธุรกิจการเกษตร ยกระดับการพัฒนาภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน สร้างโอกาสตลาดใหม่ให้ผู้เกี่ยวข้องในภาคเกษตรอุตสาหกรรมคนไทย นำเสนอเทคโนโลยีการเกษตรที่นำไปใช้งานได้จริง โดยมีโซนที่ตอบโจทย์ความสนใจของผู้เยี่ยมชมงานมากกว่า 14 โซน โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 ตุลาคม 2567 นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา 

 ดร.นฤมล กล่าวเปิดงานว่า ตนรู้สึกเป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเปิดงานในวันนี้ เพราะถือเป็นการจัดงานครั้งแรกเพื่อนำผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการเกษตรมาพบกัน เราหวังว่า จะเกิดการจับคู่ทาง ธุรกิจ หรือ จับคู่ทางการวิจัยการพัฒนาภาคกาคเกษตรต่อไป โดยภาคการเกษตรของไทยอยู่ในแกนหลักของประเทศในเชิงประชากร ในขณะนี้เรามีประชากรภาคการเกษตรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรฯอยู่ประมาณ 8.8 ล้านคน แต่ยังมีส่วนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนและอยู่ในรายงานภาคการเกษตรอีกรวมแล้ว 20 กว่าล้านคน ซึ่งภาคการเกษตรมีสัดส่วนประมาณ 15 % ของ GDP ประเทศ ยังไม่นับรวมถึงสินค้าแปรรูปอื่น ๆ อย่างเช่นยางพาราที่แปรไปเป็นถุงมือยาง หรือ ยางล้อรถยนต์ ดังนั้นหากเราเพิ่มศักยภาพของภาคการเกษตรให้เข้าสู่การแปรรูปมากยิ่งขึ้น ตัวเลขก็จะไปโตในภาคอุตสาหกรรม

“หลายคนอาจจะงงว่า อาจารย์ผันตัวเองจากภาคการศึกษามาสู่การเมืองได้อย่างไร นั่นก็เพราะอาจารย์ไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย และการศึกษาทำให้เราพ้นจากความยากจนมา แต่ก็เพราะได้รับทุนจากรัฐบาล จึงรู้สึกเป็นหนี้ของประชาชนที่เสียภาษีส่งเสียเราเรียนมาโดยตลอด จึงมีความตั้งใจว่าอยากจะนำความรู้มาทำงานเพื่อตอบแทนให้กับพี่น้องประชาชน“ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า งานวิจัยพบว่าเกษตรกรไทยยังอยู่ในกับดักความยากจนก็เพราะ ั

1. ขาดความรู้ในการทำเกษตรสมัยใหม่

2.โอกาสในเรื่องที่ดินที่ทำกิน ซึ่งที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯได้เดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนในเรื่องนี้ไปมากแล้ว ในการจัดการที่ทำกิน ทำให้เกษตรกรมีที่ทำกินที่ถูกต้อง

และ 3.ขาดแหล่งเงินทุน อย่างเช่น ธนาคารของภาครัฐอาจจะมาร่วมงาน FARM EXPO ในปีนี้ไม่ทัน แต่เชื่อว่าในปีหน้าจะมีภาคีเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น และถ้ามีอะไรให้กระทรวงเกษตรฯสามารถสนับสนุนได้ก็ยินดี

ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึง นโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า หลัก ๆ เราเน้นไปที่การยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ผ่านนวัตกรรม การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การสร้าง Brand หรือ Story ให้กับเกษตรกรเพื่อทำให้สินค้าเกษตรมีมูลค่ามากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงเน้นแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”โดยเน้นไปที่ตลาดทั้งในและนอกประเทศ อย่างประเทศในตะวันออกกลาง หรือเอเชียกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ที่ทำให้ในปีที่ผ่านมาการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นประมาณ 6.9% ซึ่งยังมีโอกาสอีกเยอะ โดยเฉพาะประเทศจีนที่ยังเปิดรับสินค้าเกษตรรวมถึงสินค้าแปรรูปต่างๆ หรือญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจในสินค้าของเราเพิ่มขึ้น อย่างเช่น กล้วยหอมทอง

ทั้งนี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเกษตรยั่งยืนในกลุ่มประเทศ EU เขาก็ออก EUDR (European Union Deforestation-free Regulation) แล้วว่าสินค้าที่จะส่งไปจากประเทศใดก็ตามในโลกที่จะเข้ากลุ่ม EU ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย EUDR ในส่วนของสินค้าเกษตรอย่าง ยางพาราเราส่งออกเป็น 1 ใน 3 ของโลก ปริมาณการส่งออกประมาณเกือบๆ 5 ล้านตันต่อปี ตอนนี้เราเร่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติที่จะดูแลเรื่อง EUDR นี้ ส่วนทางการยางแห่งประเทศไทย เราก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ไม่ได้เพาะปลูกอยู่ในที่ผิดกฎหมาย ที่บุกรุกป่า ที่ทำลายป่า โดยขณะนี้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางแล้วประมาณ 15 ล้านไร่ ซึ่ฃจะสามารถทำตามกฎหมาย EUDR ได้แน่นอน 

“การขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรเพื่อไปสู่ความสำเร็จได้ กระทรวงเกษตรทำคนเดียวไม่ได้ เราจะทำสำเร็จได้ จะเป็นเกษตรมูลค่าสูง จะเป็นเกษตรยั่งยืนได้ ต้องได้ความร่วมมือจากทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้ ต้องได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่อยู่นอกห้องนี้อีกที่จะมาร่วมกันสนับสนุน ช่วยให้ภาคเกษตรกรของไทยเติบโตมากยิ่งขึ้นและมีมูลค่าสูงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หวังว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดงานในครั้งนี้ จะนำไปต่อยอดทำให้เกิดความร่วมมือของกระทรวงเกษตร และ ภาคเกษตรของไทยต่อไป”ศ.ดร.นฤมล กล่าว