posttoday

ผ่าความท้าทาย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ดันเกมแสนล้าน ท่ามกลางอิทธิพลต่างชาติ

09 ตุลาคม 2567

มูลค่าเกมในตลาดไทยสูงถึง 40,000 ล้านบาท แต่ประเทศไทยได้เงินเพียง 700 ล้านบาท ท่ามกลางอิทธิพลเกมต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาขโมยเงินเด็กไทยแบบไม่เสียภาษี ทำอย่างไรจะส่งเสริมและทำให้รายได้เข้าประเทศ หนุนอุตสาหกรรมทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ สู่มูลค่าตลาดแสนล้าน

          อุตสาหกรรมเกม เป็น 1 ใน 11 อุตสาหกรรรมใหม่ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ผลักดันเป็นรายได้ใหม่ที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะซอฟต์พาวเวอร์ ทว่า ที่ผ่านมากลับพบว่า มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมเกมในประเทศอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท แต่กลับเป็นเงินในประเทศเพียง 700-800 ล้านบาท เพราะคนไทยเป็นคนเล่นเกมเป็นอันดับ 2 รองจากอินโดนีเซีย แต่เป็นอันดับ 1 ในการใช้จ่ายซื้อเกมในภูมิภาคนี้

          ทั่วประเทศมีคนเล่นเกม 38 ล้านคน โดยกลุ่มคนอายุ 6-24 ปี เล่นเกมอยู่ที่ 16.3 ล้านคน มีการเล่นเกมออนไลน์ 14.4 ล้านคน , เล่มเกมอี-สปอร์ต 2,000 คน สร้างรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท 

          ด้วยเหตุนี้ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จึงขอประกาศเป็นเจ้าภาพในการผลักดันมูลค่าอุตสาหกรรมเกมสู่ระดับแสนล้าน ภายใต้ กฎหมายใหม่ที่กำลังร่างเพื่อให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 นั่นคือ พ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม เพื่อทำให้ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมเกมครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ

          อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เรื่องอุตสาหกรรมเกม อยู่ร่วมกับ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และเกม ที่กระทรวงวัฒนธรรม ดูแล อยู่ ทว่า กระทรวงดีอี เห็นว่า เรื่องเกมต้องเป็นการส่งเสริมเพื่อพัฒนาแนวทางในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ การกำกับดูแล อย่างเป็นระบบ หากมีการแยกออกมาเป็นกฎหมายเกมโดยเฉพาะจะสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ได้ตรงจุด ทำให้เกิดอาชีพใหม่ อุตสาหกรรมใหม่ เช่น เกมคนไทย แอนิเมชัน คนไทย และคาแรคเตอร์โดยคนไทย 

          รองนายกฯกล่าวว่า ประเทศไทยเหมาะกับการเป็นฮับเกมในภูมิภาค ผู้ประกอบการเกมหลายรายสนใจตั้งเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของไทยที่ดีที่สุดในภูมิภาค อินเทอร์เน็ต มีความเสถียร และกระทรวงดีอี โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า จะสร้าง Edutainment Complex พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร บนโครงการไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเล่ย์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วเสร็จภายในปีหน้า นอกจากนี้ ดีป้าเอง ยังมีแผนในการพัฒนาบุคลากรด้านเกมกับ 55 โรงเรียน ภายในเดือน ก.ค. 2568 รวมถึงการอัพสกิล 1.5 แสนคน และมีแผนต่อยอดบุคลากร 500 คน สู่อาชีพขั้นสูง 

          ขณะที่ ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า อธิบายเพิ่มเติมว่า การเป็นเจ้าภาพดึงเรื่องเกมจากกระทรวงวัฒนธรรมมาดูแลเองนั้น ไม่ใช่การแย่งผลงาน หรือ งบประมาณ แต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณ แต่อยู่ที่การประสานงาน เนื่องจากระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกมจะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ในการผลักดันให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อนำเงินภาษีเข้าประเทศ กำกับดูแล แพลตฟอร์ม หรือ OTT ที่เข้ามาในประเทศไทย การชำระเงิน การใช้เงินโทเคน ที่ต้องเกี่ยวข้องกับ กระทรวงการคลัง และ ท้ายสุดคือเกี่ยวข้องกับตำรวจ เมื่อมีการหลอกลวง หรือ แนบลิงก์พนันออนไลน์มอมเมาเยาวชน

          เบื้องต้นดีป้าเองก็มีงบประมาณในการส่งเสริมการลงทุนรูปแบบเองเจิ้น ฟันด์ให้กับสตาร์ทอัพด้านเกมอยู่แล้ว 30 ล้านบาท จนถึง พ.ย. 2568 โดยมีวงเงินให้แต่ละรายที่ 2 แสนบาท-1 ล้านบาท ที่ผ่านมาเด็กไทยเก่ง แต่เป็นการรับจ้างผลิตให้ต่างชาติ และต่างชาติก็นำกลับเข้ามาขายในประเทศไทย แต่อนาคตเราจะสร้างระบบนิเวศน์ให้เด็กไทยสามารถสร้างสรรค์คาร์แรคเตอร์ของตนเองให้ได้

          ภารกิจนี้ จึงจำเป็นต้องรีบให้แล้วเสร็จ เพราะวงในลั่นออกมาว่า เป็นอุตสาหกรรมที่มีคนมีอิทธิพล และพร้อมจะล้มกฎหมายอยู่ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง ที่สำคัญเกมออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง ล้วนมีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ และกำลังได้รับความนิยมสูง จะยอมมาจดทะเบียนและตั้งเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย หรือไม่ หากการหารือกับกระทรวงวัฒนธรรมวันที่ 11 ต.ค. 2567 ราบรื่น และกฎหมายเสร็จทันภายในปีหน้า หวังว่าประเทศไทยจะสามารถนำนำเม็ดเงินแสนล้านเข้าประเทศไทยได้ตามที่ตั้งใจ