posttoday

“ศิวรักษ์” ลาออก ส่งไม้ต่อ “เวทางค์” รักษาการพร้อมขับเคลื่อน PDPC

05 พฤศจิกายน 2567

ศิวรักษ์ เลขาธิการ PDPC ประกาศลาออก หลังทำงานได้ 2 ปี ตั้ง เวทางค์ รักษาการแทน เตรียมเข้าพบ ประเสริฐ รองนายกและรมว.ดีอี เพื่อรับนโยบายเร็วๆนี้

          สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ประกาศ นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประกาศอำลาตำแหน่ง เพื่อผันตัวไปมุ่งเน้นงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างจริงจัง 

          ทั้งนี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แต่งตั้ง  นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการคนใหม่ และเตรียมเข้าพบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อรับมอบนโยบายในเร็ว ๆ นี้

          สำหรับนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยก่อนหน้าเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาแล้วเมื่อปี พ.ศ 2564-2565  จบการศึกษาจาก Ph.D. in Economics (Royal Thai Government Scholarship) Cornell University, NY, USA 

“ศิวรักษ์” ลาออก ส่งไม้ต่อ “เวทางค์” รักษาการพร้อมขับเคลื่อน PDPC เวทางค์ พ่วงทรัพย์

          จากประสบการณ์ความรู้ความสามารถของ เวทางค์ ที่คร่ำหวอดอยู่ในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมาโดยตลอด  ด้วยภารกิจส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดขึ้นในทุกภาคส่วน ซึ่งสอดคล้องและสามารถสนับสนุนงานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี

          การกลับมาดำรงตำแหน่ง ในฐานะรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในครั้งนี้ จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเดินหน้าเรื่องกฎหมาย PDPA ของประเทศไทย ด้วยภารกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศในภาพรวมอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐาน ครอบคลุมทุกกระบวนการที่ถูกต้องและชัดเจนในการปฏิบัติ เพื่อประโยชนสูงสุดด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ประชาชน 

“สิ่งที่ ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม ได้ดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นจนเป็นรูปเป็นร่างและเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม จากนี้ สคส. จะเดินหน้าสานต่อภารกิจให้เกิดเป็นผลสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไป” นายเวทางค์ กล่าว

          สำหรับนายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม (ดร.เก่ง) เคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพานิชย์ (NSD) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA) รับตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตั้งแต่วันที่ 1  ต.ค.2565

เลขาธิการมีหน้าที่และอำนาจตาม PDPA มาตรา 63 ดังต่อไปนี้

          บริหารงานของสำนักงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของสำนักงาน ตามนโยบาย แผนระดับชาติ แผนยุทธศาสตร์ นโยบายของคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการ และคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และระเบียบ ข้อบังคับหรือมติของคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานโดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย มติของคณะรัฐมนตรี และระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด นโยบาย มติ หรือประกาศที่คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงาน และลูกจ้างของสำนักงาน และประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานตามระเบียบหรือข้อบังคับของสำนักงาน

          แต่งตั้งรองเลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานของเลขาธิการตามที่เลขาธิการมอบหมาย

          บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงาน และลูกจ้างของสำนักงาน ตลอดจนให้พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ตามระเบียบหรือข้อบังคับที่คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

          ปฏิบัติการอื่นใดตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด นโยบาย มติ หรือประกาศของคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เลขาธิการรับผิดชอบในการบริหารงานของสำนักงานขึ้นตรงต่อคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          ทั้งนี้ตามมาตรา 68 กำหนดไว้ว่าให้เลขาธิการเป็นผู้แทนของสำนักงาน หรือเลขาธิการจะมอบอำนาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด