'พิชัย'รมว.พาณิชย์ชวน16เอกชนไทยในเซี่ยงไฮ้เข้ามาลงทุนในประเทศ
”พิชัย นริพทะพันธุ์“ รมว.พาณิชย์ ลุยเซี่ยงไฮ้ ถกภาคเอกชนไทยในจีน 16 บริษัท แก้อุปสรรคการค้า จับคู่นักลงทุนจีน ย้ำสถานการณ์การลงทุนในไทยวันนี้ดีต่อเนื่อง ชู PCB Data Center และ Food Security เสนอไทยเป็นแหล่งอาหารโลก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับบริษัทไทยในจีน และคณะภาคเอกชนจากไทย(คณะหอการค้าไทยในจีน) จำนวน 16 บริษัท อาทิ อาหาร ขนมขบเคี้ยว น้ำตาล แป้งมัน พลาสติก ธนาคาร รังนก สุขภาพและความงาม ว่า กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ต้องส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในต่างประเทศให้มีการเจริญเติบโตและพัฒนามากยิ่งขึ้น เราอยากเห็น 80% ของงานกระทรวงพาณิชย์ คือการส่งเสริมให้เกิดการค้าการลงทุนมากๆ ส่วน 20% แค่คุมสิ่งที่จำเป็นไม่ให้มีปัญหาเท่านั้น
วันนี้ได้คุยกับผู้ประกอบการไทย ทำให้ได้ข้อมูลเยอะ ได้ทราบว่าเราส่งออกรังนกมาจีนถึง 60,000 กว่าล้านบาท ถ้ามีการแก้ปัญหาข้อกฎหมายบางอันได้ จะสามารถส่งออกได้มากถึง 100,000 ล้านบาท และเรื่องแบงค์ของไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ที่ได้มาตั้งสำนักงานที่จีนมานาน ระบุว่า มีนักลงทุนจีนที่สนใจจะมาลงทุนเมืองไทย อยากให้ช่วย Matching จับคู่ธุรกิจกับนักลงทุนไทย เพื่อให้มีการลงทุนจากจีนมากยิ่งขึ้นให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ โดยเฉพาะธุรกิจไฮเทค วันนี้เราจะต้องพัฒนาไปทางด้านไฮเทค
วันนี้ประเทศไทยกลับเข้าสู่เวทีโลกอย่างเด่นชัด ได้รับการติดต่อมาโดยตลอดว่า จะมีนักลงทุนแห่กันเข้ามา ทั้งการลงทุนในเรื่อง PCB Data Center และ Food Security ที่ไทยอยากเสนอตัวเป็นคลังอาหารของโลก เช่น ในเดือน พ.ย. นักลงทุนนักธุรกิจรายใหญ่จากอเมริกาแห่เข้ามาพบที่กระทรวงพาณิชย์ และเราเตรียมให้การต้อนรับ ให้มีการลงทุนมากขึ้น และสำหรับจีนก็จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
“สถานการณ์การลงทุนในประเทศไทยต้องบอกว่าไทยโชคดีที่ประเทศจีนก็รักเรา สหรัฐอเมริกาก็รักเรา รัสเซียก็รักเรา อินเดียก็รักเรา ประเทศใหญ่ๆในโลกรักเราหมดเราจะเป็นตัวกลางในการทำให้การค้าการลงทุนเข้ามา กระทรวงพาณิชย์ได้รับการติดต่อจากประเทศต่างๆที่จะเข้ามาลงทุนและทำการค้ากับไทยเยอะมาก เราเห็นเราเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยดีมาก"นายพิชัยกล่าว
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันที่สูงที่สุดกับไทยเป็นเวลาติดต่อกันถึง 12 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2566 มีมูลค่าการค้า 3.65 ล้านล้านบาทลดลง 0.19% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยช่วง 9 เดือน ปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าไทยและจีนมีมูลค่ารวม 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.38% สินค้าส่งออกหลักของไทยไปจีน 5 อันดับแรก ได้แก่
1.ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง
2.ผลิตภัณฑ์ยาง
3.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
4.เม็ดพลาสติก
5.ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
และสินค้านำเข้าหลักของไทยจากจีน ได้แก่
1.เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
2.เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
3.เคมีภัณฑ์
4.เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
5.เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ