EXIM BANK ประเมินเมื่อทรัมป์กลับมา ถือเป็นจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจโลกและไทย
EXIM BANK เผยบทวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางการค้าการลงทุนโลกและไทยในหลายด้าน
ฝ่ายวิจัยธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุว่าแนวนโยบายของทรัมป์ที่สำคัญ เช่น เก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 60% และประเทศอื่นเพิ่มเป็น 10% ดึงดูดการลงทุนกลับสู่สหรัฐฯ โดยใช้มาตรการจูงใจทางภาษี รวมถึงอาจถอนตัวจากข้อตกลง Paris Agreement และอาจชะลอร่างกฎหมาย Clean Competition Act ซึ่งเป็นการเก็บภาษีคาร์บอนกับสินค้าที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง ในขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ทรัมป์สนับสนุนอิสราเอลชัดเจน
ซึ่งโดยรวมนโยบายของทรัมป์ จะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทิศทางการค้าการลงทุนโลกในหลายด้าน ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมรับมืออย่างทันท่วงที เบื้องต้น สามารถประเมินผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากแนวนโยบายของทรัมป์ ดังนี้
ด้านการค้า : ไทยได้ไม่คุ้มเสียจาก Trade War รอบใหม่ เนื่องจากโอกาสส่งออกสินค้าไทยไปแทนที่สินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ มีไม่มาก เพราะกลุ่มสินค้าที่ถูกเก็บภาษีใหม่ (ไม่เคยถูกเก็บจาก Trade War รอบแรก) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Consumer Goods เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เสื้อผ้า รองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งไทยไม่ได้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญอยู่แล้ว นอกจากนี้ นโยบายของทรัมป์ยังอาจทำให้สถานการณ์สินค้าจีนทะลักเข้าไทยรุนแรงขึ้น จากการระบายสินค้าส่วนเกินของจีน โดยเฉพาะในกลุ่ม Consumer Goods ไปยังประเทศอื่น
ด้านการลงทุน : กระแสการย้ายไปลงทุนในประเทศที่วางตัวเป็นกลาง (Conflict-free Countries) ยังดำเนินต่อไป แต่อยู่ภายใต้ภาวะกดดันเพิ่มขึ้น ทำให้ประเทศที่จีนย้ายฐานลงทุนไปผลิตสินค้าเพื่อเลี่ยงสงครามการค้าเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกใช้มาตรการทางการค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ด้านนโยบายสีเขียว : กลไกการลดคาร์บอนโลกอาจสะดุด และส่งผลต่อการผลักดันเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของไทยทางอ้อม เนื่องจากการที่สหรัฐฯ อาจชะลอกฎหมาย Clean Competition Act ลดแรงกดดันต่อธุรกิจส่งออกไทยในการปรับตัวเพื่อลดคาร์บอน ส่งผลเสียต่อการผลักดันเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของไทยในระยะยาว
ด้านความขัดแย้งในตะวันออกกลาง : สถานการณ์อาจยกระดับความรุนแรงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากอิสราเอลจะกล้าดำเนินมาตรการทางทหารเชิงรุกมากขึ้นหลังรู้ว่าจะมีสหรัฐฯ คอยหนุนหลังอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาพลังงานและต้นทุนการขนส่งสินค้าปรับขึ้นรุนแรง
เศรษฐกิจสหรัฐฯ : จะหวือหวาในระยะสั้น ทำให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เหลือ 15% และทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับขึ้นเพื่อขานรับนโยบาย แต่สหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อที่จะตามมาหลังการขึ้นภาษีนำเข้า และทำให้ Fed อาจพิจารณาชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 นอกจากนี้ นโยบายลดภาษีจะขยายการขาดดุลงบประมาณให้เพิ่มขึ้นถึง 7.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลา 10 ปี ซึ่งบั่นทอนเสถียรภาพทางการคลังและซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงถึง 122% ต่อ GDP (ปี 2566)
สถานการณ์ค่าเงินบาท : ผันผวนในทิศทางอ่อนค่า โดยในระยะสั้น เงินทุนมีแนวโน้มไหลกลับเข้าสหรัฐฯ เพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้นหลังรับรู้ผลการเลือกตั้ง ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทผันผวนในทิศทางอ่อนค่า อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไป การชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในปี 2568 และปัจจัยทางเศรษฐกิจของไทย เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาจทำให้ค่าเงินบาทกลับมาผันผวนในทิศทางแข็งค่าได้
เพื่อเตรียมรับมือกับทิศทางการค้า การลงทุน และการเมืองโลก ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป ไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างสองประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน โดยเน้นการรักษาความเป็นกลางเพื่อให้ไทยสามารถรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับทั้งสองประเทศได้อย่างเหมาะสม ขณะที่ภาคธุรกิจอาจต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเน้นกลยุทธ์สำคัญ ดังนี้
1.รุกเข้าตลาดหรือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนในประเทศที่เป็น Conflict-free Country ซึ่งได้ประโยชน์จากความขัดแย้ง เช่น อินเดีย และเวียดนาม ทั้งในแง่ของการค้าระหว่างประเทศ และการขยายการลงทุนไปยังประเทศดังกล่าว
2.ลดความเสี่ยงจากความผันผวนด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Foreign Exchange Forward Contract เพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงิน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังควรพิจารณาการทำประกันการส่งออก (Export Credit Insurance) และประกันความเสี่ยงการลงทุน (Investment Insurance) เพื่อลดเหตุความไม่แน่นอนในประเทศคู่ค้าซึ่งอาจมีมากขึ้นจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
3.รักษาแนวทางการดำเนินงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการที่สหรัฐฯ อาจถอนตัวออกจากกลไกการลดโลกร้อน ยิ่งทำให้ประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ต้องพยายามมากขึ้นในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ ก่อนถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม 2568 การติดตามประเด็นการเมืองสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ที่จะทยอยมีความชัดเจนมากขึ้น