แอป Fineasy ประกาศหยุดให้บริการแล้ว แต่ยังถอนแอปไม่ได้
แอป Fineasy ประกาศหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.68 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานสามารถกดแอป Fineasy ค้างไว้ เลือกข้อมูลแอป และเลือกปิดใช้งาน โดยจะดำเนินการส่งเวอร์ชันที่สามารถถอนการติดตั้งได้โดยเร็วที่สุด ขณะที่ ทรูมันนี่ ร่อนแถลงการณ์ ยันเป็นแอปถูกต้อง หลังถูกพาดพึง
ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ OPPO เปิดเผยว่า แอป Fineasy ในโทรศัพท์มือถือ ได้ออกประกาศหยุดให้บริการ โดยมีเนื้อหาระบุว่า
เรียนผู้ใช้ เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากมีการปรับปรุงทางธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2568 เป็นต้นไป เราจะหยุดให้บริการทั้งหมด ขออภัยในความไม่สะดวก การปรับปรุงครั้งนี้จะสร้างความไม่สะดวกให้กับท่านผู้ใช้
เราขออภัยอย่างจริงใจ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและละความไววางใจตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณสามารถกดแอป Fineasy ค้างไว้ เลือกข้อมูลแอป และเลือกปิดใช้งาน เราจะดำเนินการส่งเวอร์ชันที่สามารถถอนการติดตั้งได้โดยเร็วที่สุด
หยุดให้บริการแต่ยังถอนแอปไม่ได้
เจ้าของแอปแจ้งว่าจะสามารถถอดแอปได้เร็วที่สุด
ขณะที่ โทรศัพท์มือถือ OPPO ออกแถลงการณ์ ขออภัยอย่างยิ่งต่อความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานบางแอปพลิเคชันในช่วงที่ผ่านมา เราให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการทันทีดังนี้:
ในช่วงเย็นวันที่ 13 มกราคม 2568 แอปพลิเคชัน Fineasy ได้ออกประกาศภายในแอปฯ เพื่อระงับการให้บริการแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โทรศัพท์ใหม่ที่ยังไม่ได้แก้ไขปัญหาการติดตั้งแอป Fineasy ล่วงหน้าจะไม่ถูกจำหน่ายอีกต่อไป
ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจะได้รับการอัปเดต OTA (Over-the-Air) ซึ่งเป็นเวอร์ชันระบบใหม่ที่ไม่มีการติดตั้งแอปฯ Fineasy อีกต่อไป
ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมเป็นต้นไป จะหยุดการติดตั้งแอปฯ ล่วงหน้าของแอปฯ สินเชื่อของบุคคลที่สามทั้งหมดในอุปกรณ์ของ OPPO
OPPO ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการกับแอป Fineasy
ทั้งนี้ OPPO มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมเพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลและคุ้มครองผู้บริโภค เราขอขอบคุณความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้ใช้งานทุกท่านเป็นอย่างดีเสมอมา
ด้านทรูมันนี่ ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงกรณีข่าวผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมือถือมีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงินและพาดพิงถึง 'TrueMoney' ดังนี้
จากกรณีข่าวเกี่ยวกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ มีการติดตั้งแอปพลิเคชันทางการเงินบนอุปกรณ์มาจากโรงงาน และเนื้อหามีการพาดพิงถึงแอปพลิเคชันทรูมันนี่ (TrueMoney) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัดผู้ให้บริการทรูมันนี่ ขอชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว ตามรายละเอียดดังนี้
แอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ (TrueMoney) เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการทางการเงินอย่างถูกกฎหมาย บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัดและบริษัทในเครือทั้งหมด รวมถึง บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โดยบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ จากธนาคารแห่งประเทศไทย และบริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อดิจิทัล จากธนาคารแห่งประเทศไทย
บริษัทฯ ไม่มีนโยบายหรือการร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือแบรนด์ใด ๆ ทำการติดตั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่ ตั้งแต่ผลิตที่โรงงาน รวมทั้งไม่มีการติดตั้ง Pre-Install แอปพลิเคชันทรูมันนี่ ในมือถือที่จำหน่ายที่ร้านหรือตัวแทนจำหน่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
หากผู้ใช้งานประสงค์จะใช้งานแอปพลิเคชันทรูมันนี่ (TrueMoney) ต้องทำการดาวน์โหลดแอปฯ ด้วยตนเองผ่าน Apple Store (iOS) หรือ Play Store (Android) และเป็นผู้ให้ความยินยอมเองตลอดกระบวนการสมัครและใช้บริการ
บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้งหมด ให้ความสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานในระดับสูงสุด บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยยึดตามหลักตามกฏหมาย อาทิ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด และมีการขออนุญาตเพื่อเก็บ รวบรวม และเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ของผู้ใช้ก่อนทุกครั้ง และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดทุกประการ
บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้งหมดให้ความสำคัญในการปกป้องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ใช้งานสูงสุด ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 3X Protection ตรวจ–จับ-หยุด มาใช้เพื่อสร้างความรัดกุมในการเข้าใช้บัญชีด้วยการยืนยันตัวตนหลายชั้น และหยุดธุรกรรมแปลกปลอม พร้อมป้องกันการดูดเงิน โดยปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีทรูมันนี่หากอุปกรณ์ของผู้ใช้มีการเปิดการตั้งค่าหรือติดตั้งแอปที่ไม่ปลอดภัย