“พิชัย” เด้งรับ “ทักษิณ” ดันจีดีพีไทยปี 68 โตเกิน 3%
พิชัย รมว.คลัง เผยพยามเดินหน้าเข็น จีดีพีไทยในปี 2568 ให้เติบโตได้เกิน 3% เพื่อสร้างแรงส่งให้เศรษฐกิจปี 2569 ขยายตัวเนื่องได้ถึง 4-5% ยอมรับเป็นความท้าทาย เหตุเพราะไทยมีปัญหาค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาแก้ไข 1-2 ปี
นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายจะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ขยายตัวได้ที่ 4% และปี 2569 เติบโตเพิ่มขึ้น 5% ว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายชัดเจนในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้เกิน 3% เพื่อเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยในปี 2569 สามารถขยายตัวได้ที่ระดับ 4-5% หากนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้เร่งดำเนินการเห็นผลชัดเจนทั้งหมด
ยืนยันว่ามีโอกาสที่ปี 2568 จะได้เห็นจีดีพีเติบโตได้เกิน 3% ซึ่งตรงนี้จะกลายเป็นแรงส่งที่ดีให้กับเศรษฐกิจในปี 2569 ให้ขยายตัวได้ถึง 4-5% แต่ยอมรับว่าอาจจะต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมาก เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจของเรามีค่อนข้างเยอะ และอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจสามารถกลับมาเติบโตได้ตามที่คาดหวังไว้
นายพิชัย ยังกล่าวถึงการสรรหาประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 16 ม.ค. 2568 และจะไม่มีการต่อเวลาออกไปอีกนั้น ยืนยันว่า การสรรหาประธานบอร์ด ธปท. คนใหม่ จะเป็นไปอย่างโปร่งใส และรัดกุม ซึ่งหากดำเนินการสรรหาไม่ทัน จะต้องตั้งรองประธานกรรมการ ธปท. ขึ้นมารักษาการแทน นั่นคือ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ให้ทำหน้าที่รักษาการไปพลางก่อน
กระบวนการสรรหา จะทำอย่างไร เงื่อนไขเป็นอย่างไร จะเริ่มใหม่ตั้งแต่แรกทั้งหมดไหม จะเอารายชื่อเดิมมาพิจารณาอีกหรือไม่ ก็อยู่ที่คณะกรรมการคัดเลือกจะเป็นผู้พิจารณา โดยจนถึงวันนี้ก็มีชื่อเยอะแยะไปหมด แต่ก็ต้องรอความเห็นก่อน เพราะก็ต้องนำความเห็นของกฤษฎีกามานั่งอ่านด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตรวจมาแล้ว แล้วก็ไม่ผ่าน