ถั่วลายเสือคั่ว จากเถ้าแก่น้อย สร้างรายได้สู่ชุมชน 7.6 ล้านบาท

18 มีนาคม 2568

WoW Nut ถั่วลายเสือคั่ว GI แม่ฮ่องสอน Healthy Snack แบรนด์ใหม่จากเถ้าแก่น้อย สร้างรายได้ชุมชน 7.6 ล้าน เดินหน้าบุกตลาดไทย-ต่างประเทศ

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เล่าว่า จุดเริ่มต้นของ WoW Nut ถั่วลายเสือคั่ว เกิดจากที่เถ้าแก่น้อย ลงพื้นที่ศึกษาดูงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่าที่นี่มีพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจคือ ถั่วลายเสือ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ซึ่งเป็นเครื่องหมายการรับประกันว่าถั่วลายเสือจากแหล่งนี้คุณภาพสูง มีความพรีเมียม มีลักษณะเฉพาะที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น และต้องปลูกใน 4 อำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเท่านั้น 

 

พร้อมกับในระหว่างนั้นได้รับรู้ปัญหาของเกษตรกรที่มีความยากลำบากและขัดสน รวมถึงได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนในพื้นที่ จึงเกิดความตั้งใจที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ใน 4 แกนหลัก คือ ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอาชีพ นำมาซึ่งรายได้ เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน 

 

อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์
 

 

หนุนเกษตรกรปลูกถั่วลายเสือ 200 ไร่

สนับสนุนให้ปลูกถั่วลายเสือที่มีคุณภาพ อีกทั้งได้ขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นกว่า 200 ไร่ นอกจากนี้เถ้าแก่น้อยยังรับซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาสูตร และกระบวนการผลิต

 

โดยทีม R&D (Research and Development) ที่มีความชำนาญของเถ้าแก่น้อยเข้ามาดูแล เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่อร่อยแต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการไว้เต็มที่ พร้อมทั้งวางแผนการตลาดสร้างสินค้าให้เป็นที่รู้จักภายในประเทศ และขยายไปยังต่างประเทศ

 

รวมถึงการร่วมกับกรมป่าไม้ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่เดิมอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเผาป่า เพราะถั่วลายเสือสามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่จัดการแล้วและมีวงจรการปลูกที่ยั่งยืน

 

ถั่วลายเสือคั่ว จากเถ้าแก่น้อย สร้างรายได้สู่ชุมชน 7.6 ล้านบาท

อิทธิพัทธ์ กล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์ถั่วลายเสือคั่ว เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ GO BROAD มุ่งเน้นการขยายธุรกิจและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์

 

เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกเซกเมนต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แผนกลยุทธ์ Everywhere Every moment ที่เน้นการขยายตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทสแน็คที่เชื่อมโยงกับสาหร่ายเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่ม

 

โดยเฉพาะช่วงหลังโควิด-19 ที่ตลาดขนมขบเคี้ยวได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สแน็คประเภทถั่วก็ได้รับความนิยมจนขึ้นเป็น Top 3 ในกลุ่มขนมขบเคี้ยว และยังถือเป็น Healthy Snack ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

 

เถ้าแก่น้อยตั้งเป้ารายได้ที่ 70-100 ล้านบาท 

 

WoW Nut ถั่วลายเสือคั่ว นับว่าเป็น Healthy Snack น้องใหม่ มีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ เช่น โปรตีนสูง อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุ รวมถึงใยอาหาร

 

นอกจากนั้นกระบวนการผลิตใช้วิธีการคั่วตามแบบฉบับเดิม ไม่ใช้การทอด ไม่มีคอเลสเตอรอล และ มีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
 

WoW Nut ตั้งเป้าไว้ประมาณ 70 - 100 ล้านบาท สำหรับประเทศไทย ในปี 2568 และอนาคตมีแผนจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ที่เถ้าแก่น้อยมีฐานเดิมอยู่แล้ว ทั้งภูมิภาคอาเซียนและจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และนิยมทานถั่วลายเสืออยู่แล้ว

 

พืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ 4 อำเภอแม่ฮ่องสอน

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เกษตรกรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังไม่เห็นถึงความสำคัญของปลูกถั่วลายเสือมากนัก จนทางเถ้าแก่น้อยได้เข้าไปช่วยส่งเสริมและขยายพื้นที่เพาะปลูก จากเดิมมีเกษตรกรเพาะปลูกเพียง 88 รายเท่านั้น เพิ่มขึ้นมาเป็น 207 รายในปัจจุบัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

 

จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ GI มีการรับรองทั้ง 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขุนยวม, อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน, อำเภอปางมะผ้า และอำเภอปาย


ถือว่าเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากความยากลำบากแค่ไหน แต่ในปัจจุบันเถ้าแก่น้อยเติบโตขึ้นอย่างมาก จนสามารถผลักดันธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และขยายไปยังต่างประเทศได้ 

 

วิสาหกิจชุมชนรายได้ 7 ล้านบาท

นายอุดมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สถิติรายได้ปีใน 2567 ที่เถ้าแก่น้อยเข้าไปส่งเสริมการปลูกถั่วลายเสือ ชี้ชัดว่า มีการเติบโตสูงขึ้นถึง 197%

 

โดยวิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำบ่อสะเป่ มีรายได้ 7,667,470 บาท สมาชิกกลุ่มมีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงถึง 164,755 บาทต่อคน ซึ่งสูงกว่ารายได้ของชาวบ้านทั่วไปเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 81,182 บาทต่อคน

 

จึงทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรหันมาร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนของตนเองกันมากขึ้น เน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างอาชีพที่มั่นคง รายได้ที่แน่นอน ไม่ต้องออกไปหางานทำในจังหวัดอื่น และอยู่บ้านกับครอบครัวมากขึ้น
 

ในด้านสิ่งแวดล้อม การปลูกถั่วลายเสือ ช่วยทำให้อัตราการเผาทำลายซากวัชพืชลดลง เพราะเกษตรกรไม่ต้องเผาเตรียมแปลงในการเพาะปลูกอีกต่อไป เนื่องจากสามารถไถกลบเพื่อเป็นปุ๋ยต่อไปได้ทันที

 

และลำต้นหรือเปลือกถั่วยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์แปรรูปได้หลากหลายชนิด อาทิ ปุ๋ย อาหารสัตว์ เชื้อเพลิงชีวมวล และถ่านชีวภาพ รวมถึงนำเส้นใยจากลำต้นมาทำกระดาษรีไซเคิล หรือ บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น จาน ถ้วย กระบอกน้ำ ได้อีกด้วย
 

GI สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ด้านนางกิติยาพร สาธุเสน ผู้อำนวยการกองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า เครื่องหมาย GI (GI-Geographical) สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นตรารับรองของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มอบให้สินค้าที่ผลิตขึ้นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ ทำให้สินค้ามีคุณภาพ ลักษณะเฉพาะ หรือเอกลักษณ์ที่เลียนแบบไม่ได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 
ความแตกต่างของตราสัญลักษณ์ GI ทั่วไป จะต้องเพาะปลูกและมีกระบวนการผลิตในพื้นที่เท่านั้น แต่สัญลักษณ์ GI บนผลิตภัณฑ์ WoW Nut ถั่วลายเสือคั่ว ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ออกแบบพิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นผลิตภัณฑ์ ที่นำวัตถุดิบไปผลิตยังโรงงานที่ได้มาตรฐานนอกพื้นที่ได้

 

จึงเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ใช้โลโก้ GI นี้ เมื่อเห็นโลโก้นี้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ถั่วลายเสือคั่ว ทุกเม็ดเป็นสินค้ามีคุณภาพ มาจากบ้านน้ำบ่อสะเป่ อำเภอปางมะผ้า 1 ใน 4 อำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ขึ้นทะเบียนของ GI อย่างถูกต้อง 
 
 

Thailand Web Stat