กระทรวงดีอีเดินหน้าขยายโครงข่ายเน็ตบ้านไทย แรงอันดับ 8 ของโลก

18 มีนาคม 2568

รองนายกฯ ประเสริฐเผย ไทยครองอันดับ 8 ของโลกด้านความเร็วดาวน์โหลดเน็ตบ้าน ผลจากนโยบายขยายโครงข่ายทั่วประเทศ มุ่งลดเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล

ประเทศไทยเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้เน็ตบ้านไทยครองอันดับ 8 ของโลก ด้านความเร็วดาวน์โหลด ตามรายงาน Digital 2025 ของ We Are Social เดือนกุมภาพันธ์ 2568

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากรายงาน Digital 2025 ของ We Are Social เดือนกุมภาพันธ์ 2568 เปิดเผยถึงผลสำรวจความเร็วดาวน์โหลดอินเทอร์เน็ตประจำที่ (Fixed Broadband) หรือ “เน็ตบ้าน” ของไทย ครองอันดับ 8 ของโลก 
 

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นเป้าหมายสำคัญของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์อินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งที่ผ่านมา ดีอี ได้ทำงานร่วมกับ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)  โดย ดีอี ได้ดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 

ภายใต้ “โครงการเน็ตสาธารณะ” (เน็ตประชารัฐ เดิม) โดยการวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 24,700 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) ที่การให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานยังไม่ทั่วถึง หรือเป็นพื้นที่ที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ และจัดให้มีจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะแบบไร้สาย (Free Wi-Fi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หมู่บ้านละ 1 จุด 
 

ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและความเท่าเทียมให้กับประชาชนในหมู่บ้านพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านจุดบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ และนำมาต่อยอดการใช้ประโยชน์จากบริการอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยการันตีจากการคว้ารางวัลระดับโลก “World Summit on the Information Society (WSIS) Prizes 2019” ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศและการสื่อสาร จาก ITU (International Telecommunication Union) ซึ่งเป็นองค์กรในเครือสหประชาชาติ (UN) โดยมีโครงการเข้าแข่งขันกว่า 90 โครงการจากทั่วโลก

นอกจากนี้ กระทรวงดีอียังดำเนินโครงการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (Free Wi-Fi) ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเพิ่มโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ

รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การศึกษา การสาธารณสุข และบริการภาครัฐให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน กระทรวง ดีอี ยังมีการขยายโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงต่อจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐ ไปยังโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสุขศาลาพระราชทานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ยังไม่มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มากกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับระดับความเร็วได้ถึง 1 Gbps 

ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนใช้ประโยชน์จากโครงข่ายที่ภาครัฐได้ลงทุนไปแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสนับสนุนบริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ ในหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยบริการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง

“รัฐบาลเห็นความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล และการวางโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านและชุมชน รวมถึงการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงดีอี มีนโยบายเร่งขยายผลและการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการต่างๆ ของ กระทรวงดีอี อาทิ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน หนึ่งอำเภอ หนึ่งคนไอที และ โครงการ Learn to earn เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อล้ำ ทั้งโอกาสทางการศึกษา การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดี รวมทั้งเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีนี้ ยังได้ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปพร้อมๆ กัน” นายประเสริฐ กล่าวสรุป
 

Thailand Web Stat