posttoday

ลองขับ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ หรู-เนี้ยบ-เพียบนวัตกรรม!!

11 พฤษภาคม 2554

ถ้ามองจากมุมเรื่องขนาด อุปกรณ์ นวัตกรรมและเครื่องยนต์ในภาพรวม ผมเชื่อว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ ที่ลองขับในวันนี้ น่าจะติดอันดับต้นๆ ของรถยนต์หรูหราขนานแท้ได้ไม่ยาก...

ถ้ามองจากมุมเรื่องขนาด อุปกรณ์ นวัตกรรมและเครื่องยนต์ในภาพรวม ผมเชื่อว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ ที่ลองขับในวันนี้ น่าจะติดอันดับต้นๆ ของรถยนต์หรูหราขนานแท้ได้ไม่ยาก...

โดย...พิสันต์ อิทธิวัฒนกุล

ในบรรดารถยนต์หรูหราด้วยกันเองนั้น จริงๆ แล้วก็มีการแบ่งแยกกันว่าใครหรูกว่าใคร หรูกว่าตรงไหน ซึ่งบรรดาเจ้าของรถยนต์แต่ละคันนั่นแหละที่เป็นคนแบ่ง โดยเอาเรื่องของขนาด สมรรถนะ อุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งผลลัพธ์ก็ไปจบที่เรื่องของราคาว่าใครกันแน่ที่หรูหราอลังการกว่ากัน

ถ้ามองจากมุมเรื่องของขนาด อุปกรณ์ นวัตกรรมและเครื่องยนต์ในภาพรวม ผมเชื่อว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ ที่ลองขับในวันนี้ น่าจะติดอันดับต้นๆ ของรถยนต์ที่เรียกว่าหรูหราขนานแท้กับเขาได้ไม่ยาก

แม้จะเป็นรุ่นใกล้ๆ จะเปลี่ยนโมเดลเต็มที่แล้ว แต่ เอส-คลาส คันนี้ก็ยังไม่ตกขบวนในแง่ของความหรูหรา แถมยังเพิ่มลูกเล่นที่ทำให้รถดูมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการติดตั้งไฟแอลอีดีทั้งโคมไฟหน้าและหลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่าง และทำให้ตัวรถดูหรูหรากว่าเดิม

ลองขับ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ หรู-เนี้ยบ-เพียบนวัตกรรม!!

ด้วยขนาดตัวถังที่ยาวกว่า 5.2 เมตร กว้างกว่า 1.8 เมตร โดยมีระยะฐานล้อยาวกว่า 3.1 เมตร เนื่องจากเป็นรุ่นฐานล้อยาว ทำให้ เอส-คลาส คันนี้ กลายเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่บนท้องถนน ที่ผู้โดยสารในทุกตำแหน่งสามารถนั่งเหยียดแข้งเหยียดขาได้โดยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด

ตำแหน่งการนั่งของผู้โดยสารตอนหน้าและคนขับอยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมรถได้ดี แถมมาด้วยเบาะนั่งอย่างดีที่ให้ความสบายและโอบล้อมตลอดการขับขี่ ขณะที่เบาะนั่งด้านหลังเป็นเหมือนสวรรค์ของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในยามรถติด เบาะที่ปรับเอนได้จนเกือบจะเหมือนโซฟา และระบบนวดที่ทำได้ดีกว่าลูบไล้ตัวไปมา ก็ทำให้การเดินทางหายเบื่อ หายเมื่อยไปได้เหมือนกัน

กระโดดเข้ามาในรถ เสียบลูกกุญแจสตาร์ตเครื่อง ซึ่งผมมองว่าเป็นจุดด้อยจุดเล็กๆ ของรถคันนี้ที่ยังต้องเสียบกุญแจอยู่ แทนที่จะใช้ปุ่มสตาร์ตให้รู้แล้วรู้รอดกันไปข้าง แวบแรกที่สตาร์ตเสียงเครื่องยนต์ดีเซลก็ครางออกมาให้รับรู้ได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ แต่เมื่อขับใช้งานก็ไม่ได้ยินเสียงครางมาให้รำคาญหูแต่อย่างใด

เครื่องยนต์ดีเซลวี 6 ขนาด 2,987 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 211 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบ 1,600-2,400 รอบต่อนาที ใช้เวลา 7.8 วินาที วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดจีทรอนิกส์ เพื่อลากรถน้ำหนักตัว 2.5 ตัน คันนี้ไปได้แบบสบายๆ

ใครที่คิดจะนำรถคันนี้ไปซิ่งแบบตีนผีอาจจะต้องคิดหนักหน่อย เพราะแม้จะเพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะที่เรียกแรงม้ามาใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่ทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและช่วงล่างถูกเซตมาสำหรับการเป็นรถผู้บริหารที่คงไม่เน้นความรวดเร็วปรู๊ดปร๊าดในการออกตัวมากนัก เพราะแต่ละครั้งของการออกตัวดูเหมือนเครื่องยนต์จะพยายามทำให้การออกตัวเป็นแบบนุ่มนวลที่สุด มากกว่าจะไปบึ่งทะยานแข่งกับใคร

แต่ถ้ามั่นใจและตั้งใจขับจริง เพียงกดปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ให้เป็นแบบสปอร์ต แล้วกดคันเร่งให้หนักหน่วงกว่าเดิมสักเล็กน้อยก็พอ ตัวรถก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยรอบเครื่องที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงตัวรถที่โยนตัวมากขึ้น บุคลิกของรถเปลี่ยนไป เหมาะกับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการรถคันใหญ่ แต่ขับเองเพื่อความสนุกสนานของชีวิต

ลองขับ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ หรู-เนี้ยบ-เพียบนวัตกรรม!!

อุปกรณ์ของเล่นต่างๆ ถูกติดมาให้แพรวพราวทั่วรถไปหมด เรียกว่าเทคโนโลยีรุ่นใหม่มีอะไร เอส-คลาส คันนี้จัดมาให้อย่างเต็มที่ ซึ่งจากตำแหน่งคนขับที่ชอบและมีโอกาสได้ใช้งานอย่างจริงจัง ก็คงหนีไม่พ้นตัวจอควบคุมด้านหน้า ที่สามารถแบ่งเป็น 2 จอแยกกันระหว่างคนขับและผู้โดยสารได้ ขณะที่ระบบกล้องส่องในยามค่ำคืนที่แสดงผลออกมาแบบเรียลไทม์ ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ยามดึกได้มากทีเดียว

รวมไปถึงระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับที่สามารถปรับใช้งานได้ตามความเหมาะสม ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต หากมีผู้โดยสารที่ชอบช็อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ ระบบเปิดและปิดฝากระโปรงหลังที่ควบคุมจากภายในรถน่าจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจ แต่ใครที่ไม่คุ้นเคยอาจจะต้องทำความเข้าใจกับลูกเล่นเหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่ารวมไปถึงคันเกียร์ที่ติดตั้งอยู่ที่พวงมาลัยก็เช่นเดียวกัน

ด้วยถังน้ำมันที่ค่อนข้างใหญ่ถึง 90 ลิตร ประกอบกับประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม ในวันที่นำรถไปลองขับอย่างจริงจัง ทั้งในเมือง นอกเมือง ขับช้า ขับเร็ว ด้วยระยะทางกว่า 650 กิโลเมตร ยังมีน้ำมันในถังเหลืออยู่ คิดคำนวณแบบคร่าวๆ การขับขี่ของผมกับรถที่ใหญ่ทั้งตัวทั้งเครื่อง ใช้น้ำมันไปกว่า 10 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่ได้แตกต่างจากที่สเปกกำหนดเอาไว้สักเท่าไร

สนนราคาค่าตัว 8 ล้านบาท มีเงินทอนไปเติมน้ำมันได้ 1,000 บาท ใครที่สนใจห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ ที่มีให้ทั้งความหรูหรา สมรรถนะโดดเด่น และเทคโนโลยีที่ไม่เป็นรองใคร ก็ไปลองของจริงก่อนจับจองเป็นเจ้าของกันได้!!!

ลองขับ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ หรู-เนี้ยบ-เพียบนวัตกรรม!!

 

ลองขับ : เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 350 ซีดีไอ หรู-เนี้ยบ-เพียบนวัตกรรม!!