AOT ตั้งเป้าผลิตเชื้อเพลิงเครื่องบินแบบยั่งยืน (SAF) ดันไทยสู่ตลาดโลก
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT ตั้งเป้านำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) มาใช้ในธุรกิจการบิน พร้อมดันไทยเป็นแหล่งผลิต-ส่งออกนอก
ฐานเศรษฐกิจ จัดงานสัมมนา “ROAD TO NET ZERO โอกาส & ความท้าทายทางธุรกิจ” ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทราบถึงมาตรการต่างๆ และเกิดการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT ได้แสดงวิสัยทัศน์ในช่วง Aviation Ecosystem Road to Net Zero : ทิศทางธุรกิจการบินที่ยั่งยืน ดังนี้
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่นำไปใช้คำนวน GDP ของประเทศ ปัจจุบันธุรกิจการบินในประเทศถือว่าฟื้นตัวได้ 100% แล้ว อย่างไรก็ตาม AOT ไม่ได้เตรียมพร้อมแค่ศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยว แต่เรายังตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% จากเดิมเฉลี่ยปีละ 3 แสนตัน ให้เหลือครึ่งหนึ่งหรือ 1.5 แสนตันให้ได้ จากนั้นในอีก 10 ปี เราตั้งเป้าจะไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero)
เราตั้งเป้าว่าแหล่งพลังงานที่ใช้ในท่าอากาศยานทั้งหมดต้องมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ 100% เรามีพื้นที่มากมายในสนามบินที่จะติดตั้งแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
ถัดมาภายใน 4 ปี รถยนต์ที่ให้บริการในสนามบินต้องเป็นรถไฟฟ้า นอกจากนี้เรายังตั้งเป้าใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) หรือเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เชื้อเพลิงที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว หรือต้นพืชต่างๆ แต่ปัจจุบัน SAF ยังมีราคาแพงกว่าน้ำมันปกติถึง 8 เท่า และยังไม่มีผลิตในไทย ต้องอาศัยการนำเข้าจากสิงคโปร์
ฉะนั้นนโยบายของ AOT เราจะร่วมกับฝ่ายผลิต SAF ที่สามารถผลิตได้เองในไทยเพื่อลดผลกระทบกับอุตสาหกรรมการบิน และลดต้นทุน SAF จาก 8 เท่า ให้เหลือ 2.2 เท่า
ดังนั้นนี่ คือโอกาสที่ทำให้เรากลายเป็นผู้ผลิตเอง เป็นตลาดการผลิตน้ำมันที่ราคาเหมาะสม และสามารถนำไปขายยังต่างประเทศได้