“สุรพล โอภาสเสถียร” เครดิตบูโร ถอดรหัสหนี้เสีย 1.22 ล้านล้านบาท
แจงยิบ หนี้เสีย 1.22 ล้านล้านบาท พบสินเชื่อส่วนบุคคล มากสุด 2.8 แสนล้านบาท รองลงมาคือ สินเชื่อรถยนต์ 2.7 แสนล้านบาท และ สินเชื่อบ้าน 2.4 แสนล้านบาท
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Surapol Opasatien ต่อเนื่อง เกี่ยวสถานะอันอ่อนแอ ของภาระหนี้สิน ที่ผู้คนกำลังแบกเป็นภาระในการเดินทางไปสู่อนาคต ที่ยังไม่มีความแน่นอนในปี 2568 ด้วยการนำเสนอข้อมูลที่สำคัญ 3 ส่วน ประกอบด้วย
1.หนี้เสียหรือหนี้ NPLs จำนวน 1.22 ล้านล้านบาท มีลักษณะการค่อยๆเพิ่มมาต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 อันเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดการระบาด Covid-19 แบ่งเป็น
2.7แสนล้านบาท คือ สินเชื่อรถยนต์
2.8 แสนล้านบาท คือ สินเชื่อส่วนบุคคล
2.4 แสนล้านบาท คือสินเชื่อบ้าน ลักษณะ MoM เติบโตเพียง 0.6% เราอาจเทียบกับปี 2567ไม่ได้ เพราะใครๆก็ทราบว่า 2 ไตรมาสแรกปีที่แล้ว มันเต็มไปด้วยปัญหามากมายมีเรื่องงบประมาณมาประกอบด้วย
2.หนี้กำลังจะเสียหรือ SM ก็มาหยุดอยู่ที่ 5.9แสนล้านบาท เติบโต MoM 3.1% ทิศทางดีขึ้น เพราะการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันหรือ DR. ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ตามกติกาการให้กู้อย่างรับผิดชอบ
3.ตารางที่ผมอยากให้ทุกท่านให้ความสนใจมากๆ ถึงมากที่สุดคือ หนี้เสียที่เกิดจาก covid-19หรือ NPLs รหัส 21 ลูกหนี้กลุ่มนี้เมื่อปี 2562 ก่อนโรคระบาด จ่ายหนี้ได้ทุกบัญชีเป็นเวลาอย่างน้อย 12เดือนติดต่อกันครับ ระดับเกรด A.แต่ประสบปัญหาหมดแรง หมดลม หมดเงินครับ กลุ่มนี้มีอยู่ 2.2ล้าน
ลูกหนี้ 2.9 ล้านบัญชี ยอดหนี้คงค้าง 2 แสนล้านบาท กลุ่มนี้ในความเห็นของคนตัวเล็ก เสียงไม่ดัง ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ เห็นว่าควรต้องช่วยเขาเป็นลำดับต้นๆครับ เขาสู้เต็มที่แล้ว เขาทำดีมาตลอด ช่วยตรงนี้สำหรับคนที่มียอดภาระหนี้ไม่เกิน 1แสน 3แสนจะดีหรือไม่ครับ
เราลองคิดตามนะครับ เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดในเมืองท่องเที่ยว โควิดมาตลาดปิด นักท่องเที่ยวไม่มาเลย สู้ด้วยการขายออนไลน์ เอาเงินเก็บมาสู้
แต่สุดท้ายไม่ไหว หากหลวงท่านจะได้ยื่นมือมาช่วยตรงนี้ ปรับโครงสร้างหนี้แบบมีส่วนลดจะทำได้หรือไม่ครับ น่าคิดนะครับว่า เราจะได้ถือโอกาสนี้สะสางคนที่เป็น Long covid ด้านการเงินได้หรือไม่