รอการเมืองชัด! หุ้นไทยพรุ่งนี้สายย่อ กูรูชี้หุ้นหลบภัยคือคำตอบ

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(6 มิ.ย.66) อยู่ที่ 1,528.54 จุด ลดลง 2.66 จุด คิดเป็น -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 47,230.65 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด ที่ 1,539.49 จุด และลดลงต่ำสุด 1,526.93 จุด

โดยนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 1,329.81 ล้านบาท ฟาก สถาบัน ซื้อแผ่วเหลือเพียง 86.87 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติ ขายอีก 1,086.81 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขาย 328.87 ล้านบาท

5 หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,164.71 ลบ.
2.PTTEP ปิดที่ 145 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,984.85 ลบ.
3.GULF ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,657.72 ลบ.
4.BDMS ปิดที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,481.89 ลบ.
5.KBANK ปิดที่ 132 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,268.04 ลบ.

นายธวัชชัย อัศวพรไชย รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด กล่าวกับ"โพสต์ทูเดย์"ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้(7มิ.ย.66)คาดแกว่งตัวไซต์เวย์ลงมาที่แนวรับ 1,520 จุด เพราะตลาดไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่จะกระตุ้นแรงซื้อ ประกอบกับรอดูท่าทีการเมืองไทยและเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ หลังจากที่ขายต่อเนื่อง 5 เดือน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท 

ถามว่า เมื่อไหร่ต่างชาติจะหยุดขาย ข้อนี้ถือว่าตอบยากเพราะต่างชาติไม่เห็นภาพนโยบายทางเศรษฐกิจและไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ มีเพียงเรื่องของสังคมและกระแสโลกโซเชียลที่ต้องการแบบนั้นแบบนี้เท่านั้น

ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามคือการเมืองจะชัดเจนเมื่อไหร่ กกต.จะประกาศชัดเจนช่วงไหน และราคาน้ำมันที่กลับตัวขึ้นมาแบบนี้ส่งผลเรื่องค่าเอฟที ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นจะแก้ไขอย่างไร เป็นต้น

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำขึ้นขาย-ลงซื้อเหมือนเดิม แต่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ โรงพยาบาล หรือ หุ้นที่ราคาปรับลดลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ อาทิ SCC และ หุ้นธนาคาร เป็นต้น