posttoday

ต่างชาติแห่ขอ SLOT บินเพิ่ม 'AOT' ยิ้ม! รับทรัพย์เต็มสูบ

08 สิงหาคม 2566

เที่ยวไทยพุ่ง! ต่างชาติแห่ขอเวลาบินฤดูหนาวเพิ่ม "AOT"นำทีมหุ้นท่องเที่ยว ยิ้มรับคลื่นนักท่องเที่ยว หนุนทัพผลงานแกร่ง ฟาก 6 โบรกยกให้ AOT หุ้นดีพิมพ์นิยม ERW-CENTEL-MINT-BA-AAVอิงกระแสบวก

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น AOT ปิดเช้านี้(8 ส.ค.2566) อยู่ที่ 70.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 368,377,110 บาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 71 บาท และลดลงต่ำสุด 70.50 บาท

ขณะที่ เช้านี้มีบิ๊กล็อต AOT-F ซื้อขายสูงสุด 122.25 ล้านบาท จำนวน 1,724,700 หุ้น ราคาเฉลี่ย 70.88 บาท

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย กล่าวว่า ตามที่สายการบินจากทั่วโลกขอรับเริ่มขอรับจัดสรรเวลาการบิน(Slot)ตารางบินฤดูหนาว(ต.ค.66-มี.ค.67) สำหรับเที่ยวบินใหม่เพื่อบินเข้าสู่สนามบินหลักของไทยนั้น ถือว่าปัจจัยหนุนหุ้น AOT ขานรับยอดนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น

     ขณะที่สัญญาณราคาหุ้น AOT แกว่งออกด้านข้าง รอเบรกด่าน 72 บาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่าด้วยสตอรี่นักท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนราคาได้ 

     ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ คงประมาณการปี 66 จะพลิกเป็นกำไรที่ 9.4 พันล้านบาท ดีขึ้นจากปี65 ที่ขาดทุน 1.1 หมื่นล้านบาท สำหรับกำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 20% จากทั้งปี ขณะที่กำไรในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นมาก ทั้งนี้ เรายังคงประเมินผู้โดยสารที่ 107 ล้านคน เพิ่มขึ้น 129% YoY โดยจำนวนผู้โดยสารช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 50 ล้านคน เพิ่มขึ้น 214% YoY คิดเป็น 46% จากที่เราประเมินทั้งปี สำหรับจำนวนผู้โดยสารในช่วงครึ่งปีแรกจะดีขึ้นจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้โดยสารจากจีนจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากจีนเปิดประเทศในเดือน ม.ค.66 จำนวนผู้โดยสารจีนยังเพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากติดปัญหาความพร้อมของสนามบินและเครื่องบินในจีนที่หยุดทำการบินมานาน

     รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องรอทำ passport ใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มดีขึ้นและจะทำให้จำนวนผู้โดยสารจากจีนจะฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนั้นตั้งแต่ 1 เม.ย.66 AOT สิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ/สายการบิน ทำให้จะมีรายได้กลับมาเป็นปกติมากขึ้น โดยเฉพาะ king power ที่ชนะการประมูลดีวตี้ฟรีจะเริ่มจ่าย minimum guarantee ด้วยวิธี revenue per head

     ฝ่ายวิจัยยังคงราคาเป้าหมายปี66 ที่ 84 บาท ยังอิงวิธี DCF (WACC = 7%, terminal growth = 3.5%) โดยมี key catalyst จากจำนวนผู้โดยสารที่มีการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากจีนที่จะเติบโตดีขึ้น และตั้งแต่ 1 เม.ย.66 กำไรจะเติบโตดีขึ้นมาก จากการที่ king power ที่ชนะการประมูลดีวตี้ฟรีจะเริ่มจ่าย minimum guarantee และจะมีผลทำให้กำไรปี67 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้

AOT ลุ้นต้านสำคัญ

     บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุ กลยุทธ์หุ้น AOT แนวโน้มลงทดสอบ 69 / 68 บาท ส่วนแนวต้านแรก 71.50 บาท และแนวต้านสำคัญ 72.50 บาท

ทางบินของมังกร

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ทาง ททท. เปิดเผยข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยว ก.ค.66 ที่ราว 2.48 ล้านคน (+11% MoM, 120.3% YoY, สัดส่วน 74.4% ของ PreCOVID) โดยจีนเดินทางเข้าไทยเป็นอันดับ 1 ที่ประมาณ 4.1 แสนคน (+31%MoM, สัดส่วน 42% ของ Pre-COVID) พร้อมลุ้นแตะ 5 แสนคนต่อเดือน ช่วง ส.ค.-ก.ย. พร้อมตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยปีนี้ 4-5 ล้านคน(7M66 ที่ 1.85 ล้านคน)

     ฝ่ายวิจัยมองบวกจากพัฒนาการของนักท่องเที่ยวจีน ดีต่อหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้จากท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก อย่าง AOT > ERW > CENTEL (สัดส่วน 34% ของรายได้รวมปี 2562) > MINT (สัดส่วนราว 10% ของรายได้รวมปี 2562) จากทิศทางกำไรไต่ระดับ QoQ ตั้งแต่ 3Q66 ถึง 1Q67 หลังผ่าน Low season ช่วง 2Q66 และ ต.ค. 66 มีปัจจัยหนุนจากช่วง Golden week ของจีน ที่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว

     โดยรองจาก AOT ฝ่ายวิจัยมองว่า ERW ที่มีโครงสร้างรายได้จากไทยราว 90% จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวมากกว่าหุ้นโรงแรมอื่น อีกทั้งงวด 3Q66 มีแรงขับเคลื่อนจากการจัดงาน Thailand focus ที่ Grand Hyatt Erawan Bangkok (โรงแรมกลุ่ม Luxury คิดเป็นสัดส่วน 40% ของรายได้รวม 1Q66 โดย Grand Hyatt Erawan Bangkok จำนวนห้องพักคิดเป็น 42% ของห้องพักกลุ่ม Luxury) วันที่ 23-25 ส.ค.66 ซึ่งมีโอกาสที่ค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) จะสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน หลัง ADR กลุ่ม Luxury เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง YoY ตั้งแต่ 3Q65

     สำหรับคำแนะนำหุ้นในกลุ่มฯ แนะนำ ERW([email protected]) จากแนวโน้มกำไรไต่ระดับเป็นขั้นบันไดตั้งแต่ 3Q66 – 1Q67 หลังผ่าน LOW SEASON ของท่องเที่ยวไทยตามด้วย AOT(FV@B80) คาด EARNING MOMENTUM เป็นไปในทิศทางเดียวกับ ERW และ MINT(FV@B38) จากโครงสร้างธุรกิจกระจายตัวทั้งโรงแรม, ร้านอาหาร และในหลายประเทศ ส่วน CENTEL (FV@B60)

5หุ้นท่องเที่ยวคึกคัก

     ฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตามที่กองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬาเผยจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยสะสมตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 15.89 ล้านคน ขยายตัว 363% เทียบปีก่อน รับปัจจัยหนุนจาก การผ่อนคลายมาตรการวีซ่านักท่องเที่ยวจีน การปิดภาคเรียนในยุโรปและตะวันออกกลาง และ การตลาดของสายการบิน พบสัดส่วนนักท่องเที่ยว 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และ รัสเซีย ตามลำดับ

     ทางฝ่ายฯมองข่าวดังกล่าวหนุน Sentiment กลุ่มท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง มองครึ่งหลังเป็น High Season ของการท่องเที่ยวทางทะเล และ มองวันหยุดปลายปีจะช่วยดันกลุ่มท่องเที่ยวให้คึกคัก แนะนำสะสม หุ้น ERW, CENTEL, BA, AAV และ AOT

เก็บ PSC หนุนปีหน้า

     บล.ยูโอบีเคย์เฮียน คาดว่า AOT จะรายงานผลประกอบการใน 3QFY23 ที่ 3.6 พันลบ. (+265% yoy, +96% qoq) โดยสาเหตุมาจากการไม่มีมาตรการช่วยเหลือ โดยให้ส่วนลด 50% แก่ผู้ประกอบการสายการบินและผู้เช่า ซึ่งจะหักล้างกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงเล็กน้อย 6% qoq (ต่ำกว่าระดับ pre-Covid-19 26%) เราประเมินว่า ผลประกอบการในปี 2024 จะเพิ่มขึ้น 0.4-1.2% ถ้าหากมีการปรับเพิ่มการจัดเก็บค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 83.00 บาท

กำไร Q3 ดี

     บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำหุ้น AOT ราคาเป้าหมาย 85.25 บาท มอง Positive ต่อแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q23F (เม.ย.-มิ.ย.23) ที่ 3.3 พันลบ. ฟื้น y-y จากขาดทุนสุทธิ 2.2 พันลบ.และ+79%q-q ตามการฟื้นของปริมาณผู้โดยสาร และสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบิน แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q23F ฟื้นต่อเนื่องเป็น 4-5 พันลบ. เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี FY23F-25F ขึ้น +2% ถึง +13% และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี FY24F ที่ 85.25 บาท เราเปลี่ยนคำแนะนำเป็น Buy (เดิม Trading Buy) และกลับมาเลือก AOT เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่มฯ