33 หุ้นตัวตึง! ราคา Laggard โหนกระแสการเมือง-นโยบาย"นายกฯ"
โบรกสแกนหาหุ้นตัวตึง ราคา Laggard โหนกระแสข่าวดีการเมือง บวกรับนโยบายนายกฯใหม่ "เศรษฐา ทวีสิน"ผลักดันปากท้องประชาชน
ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า การโหวตนายกรอบที่ 3 สำเร็จ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฐมนตรีคนที่ 30 รัฐสภาจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ต่อมาจะต้องดำเนินการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อโปรดเกล้าฯ และเตรียมเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ(ถือเป็นการสิ้นสุดรัฐบาลรักษาการ) ตามด้วยการแถลงนโยบาย ฝ่ายวิจัยฯคาดว่ากระบวนการทั้งหมดน่าจะเสร็จสิ้นภายในต้น ก.ย.66
ด้วย Sentiment ดังกล่าวทำให้ SET Index ถูกผลักดันไปทดสอบแนวต้าน 1545 จุด ซึ่งฝ่ายวิจัยฯมองว่าการปรับขึ้นต่อของ SET Index สามารถทำได้ แต่ต้องพึ่งพา Fund flow ต่างชาติ เป็นหลัก ซึ่งหากไม่มี คาดทำให้ SETIndex ปรับตัวขึ้นได้อีกไม่ไกล โดยวันนี้มองกรอบแนวต้านที่ระดับ 1560 จุด
ขณะที่ปัจจัยกดดันยังมีทั้งจากภายนอก และภายในประเทศ เริ่มด้วยเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลง GDP Growth ปลายปี อาจโตไม่ถึง 5%YoY ส่วนไทย GDP 2Q66 +1.8%YoY ทำให้ประมาณการ GDP Growth ปีนี้ของหลายสำนักเศรษฐกิจปรับลง บวกกับต้องรอดูท่าทีการเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมนุมต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
13 หุ้นเก็งรับนโยบาย
ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ นโยบายหลักๆของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้กับประชาชน เช่น Digital Wallet 10,000 บาท, ที่ดินทำกิน, ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ, เพิ่มราคาพืชผลเกษตร, แก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้, กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ และจะแก้รัฐธรรมนูญ
ซึ่งนโยบายบางส่วนที่ต้องใช้เม็ดเงินในการขับเคลื่อน ไม่ได้มีการบรรจุไว้ในงบประมาณปี 2566 จึงจำเป็นต้องรอการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ซึ่งจะถูกเบิกจ่ายช่วง 1 ต.ค.66-30 ก.ย.67 แต่เนื่องเป็นช่วงคาบเกี่ยวของการ เลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาล ทำให้กระบวนการในการจัดทำงบประมาณปี 2567 ล่าช้ากว่าปกติ
โดยฝ่ายวิจัยฯคาดว่าช่วงเวลาที่จะสามารถนำเม็ดเงินงบประมาณปี 2567 มากระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายที่หาเสียงไว้จะอยู่ในช่วงปลาย 1Q67 หรือ ต้น 2Q67 ซึ่งกลุ่มหุ้นที่คาดว่าสามารถจะเก็งกำไรได้จากประเด็นดังกล่าว คือ หุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่าซื้อ อสังหาฯ ท่องเที่ยว อาทิ CRC, CPALL, BJC, TIDLOR, MTC, SAWAD, LH, SC, SIRI, PR9, CENTEL, ERW, MINT เป็นต้น
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการได้ตัวนายกฯ ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Indexวานนี้ แต่ระยะถัดไปมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัว และความเสี่ยงการเกิดการชุมนุมนอกสภา ซึ่งทำให้ SET ปรับขึ้นได้จำกัด หากไม่มี Flow ต่างชาติคอยหนุน โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ในกรอบ 1535-1560 จุด
20 หุ้น Laggard
ในวันนี้(23 ส.ค.) ถึง 25 ส.ค.66 มีการจัดงาน Thailand Focus 2023 พอดี น่าจะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ หันมาสนใจและเพิ่มน้ำหนักในการลงทุนขึ้นบ้าง อีกทั้งสถิติในอดีตยังชี้ให้เห็นว่าช่วงที่มีการจัดงาน Thailand Focus 6 ปีที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ย +1.1%
ภายใต้ตลาดหุ้นไทยที่ตอบรับเชิงบวก ประเด็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองมาในระดับหนึ่ง ฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาหุ้นเด่นน่าสะสมในช่วงนี้ คือ “หุ้นที่ราคายัง Laggard (นิยามหุ้น Laggard คือ หุ้นที่มีราคาปรับขึ้นช้ากว่าตลาดโดยรวมหรือช้ากว่าหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน) รับกระแสการเมือง และยังเข้าร่วมงาน Thailand Focusในปีนี้”
โดยผ่านเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
1. มี Momentum รับกระแสการเมือง (หุ้นที่ขึ้นแรงในวานนี้)
2. ราคายังต่ำกว่าช่วงก่อนวันเลือกตั้ง (ราคา Laggard มีช่องว่างในการขยับขึ้นต่อ)
3. เข้าร่วมงาน Thailand Focus ในช่วง23 –25 ส.ค. นี้(ได้ Sentiment เชิงบวกคาดหวัง Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาหนุนเพิ่มเติม) ได้ผลลัพธ์ 20 บริษัท ดังนี้
อย่างไรก็ดี จากรายชื่อดังกล่าวฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ SAWAD, EA, CRC, CPAXT, BJC, TRUE, GULF, STEC