เปลี่ยนโฉมหน้า! MGI เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 15 อันดับแรก ไร้เงา 2 วีไอ
เก่าไปใหม่มา! “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เปิดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 15 อันดับแรก MGI พบ “คุณเชาว์-เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” โผล่ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวน 2.45 ล้านหุ้น และ “เบียร์-วนนท์ วรรณป้าน” ถือหุ้นอันดับ 8 จำนวน 1.9 ล้านหุ้น แต่กลับไร้ชื่อ “หมอพงศ์ศักดิ์” และ “สุระ คณิตทวีกุล”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI โพสต์เฟสบุ๊ก “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล-Mr.Nawat Itsaragrisil” ระบุข้อความว่า ปิดบัญชีล่าสุด 15 อันดับแรกผู้ถือหุ้นใหญ่ MGI ล้วนเป็นนักลงทุนตัวจริงระยะยาว และมีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ขอบคุณที่เชื่อมั่น MGI
สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้น 15 อันดับแรก ล่าสุด ประกอบด้วย
1. ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ถือหุ้น จำนวน 90,000,000 หุ้น
2. รัชพล จันทรทิม ถือหุ้นจำนวน 59,999,800 หุ้น
3. บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ถือหุ้นจำนวน 6,500,000 หุ้น
4. พีรเจต สุวรรณนภาศรี ถือหุ้นจำนวน 6,000,000 หุ้น
5. เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ ถือหุ้นจำนวน 2,450,000 หุ้น
6. ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้นจำนวน 2,300,000 หุ้น
7. อิงฟ้า วราหะ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
8. วนนท์ วรรณป้าน ถือหุ้นจำนวน 1,900,000 หุ้น
9. ชาล็อต ออสติน ถือหุ้นจำนวน 1,900,000 หุ้น
10. ปภาดา ถวัลย์กิจดำรงค์ ถือหุ้นจำนวน 1,850,000 หุ้น
11. กฤติเดช ประชานุกุล ถือหุ้นจำนวน 1,500,000 หุ้น
12. ธัญลักษณ์ สุขใจ ถือหุ้นจำนวน 1,437,000 หุ้น
13. ศิรินันท์ วันทอง ถือหุ้นจำนวน 1,110,000 หุ้น
14. ดวงพร มุกดาประกร ถือหุ้นจำนวน 1,100,000 หุ้น
15. สุรพงศ์ ลีลานันทกุล ถือหุ้นจำนวน 1,000,000 หุ้น
จากเดิม รายชื่อผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1. ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ถือหุ้น จำนวน 90,000,000 หุ้น
2. รัชพล จันทรทิม” ถือหุ้นจำนวน 59,999,800 หุ้น
3. บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ถือหุ้นจำนวน 6,000,000 หุ้น
4. พีรเจต สุวรรณนภาศรี ถือหุ้นจำนวน 4,700,000 หุ้น
5. ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
6. ชาล็อต ออสติน ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
7. พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
8. สุระ คณิตทวีกุล ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
9. อิงฟ้า วราหะ ถือหุ้นจำนวน 2,000,000 หุ้น
10. กฤติเดช ประชานุกุล ถือหุ้นจำนวน 1,500,000 หุ้น
ขณะที่ “KAMART” ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 500,000 หุ้น เป็น 6,500,000 หุ้น จากเดิม 6,000,000 หุ้น
“พีรเจต สุวรรณนภาศรี” ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 1,300,000 หุ้น เป็น 6,000,000 หุ้น จากเดิม 4,700,000 หุ้น
“ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์” ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 300,000 หุ้น เป็น 2,300,000 หุ้น จากเดิม 2,000,000 หุ้น
ส่วน “ชาล็อต ออสติน” ถือหุ้นลดลง 100,000 หุ้น เป็น 1,900,000 หุ้น จากเดิม 2,000,000 หุ้น
บอร์ด 2 ราย ขายหุ้น รับทรัพย์รวมกว่า 5.5 ล้าน
ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) พบว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2566 “สุชาติ เหล่าปรีดา” กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ มีการขายหุ้น MGI จำนวน 50,000 หุ้น ที่ราคา 8.60 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 430,000 บาท และในวันเดียวกัน ได้มีการขายหุ้นออกมาอีก 50,000 หุ้น ที่ราคา 9.15 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 457,500 บาท รวม 100,000 หุ้น คิดเป็นเงิน 887,500 บาท
จากนั้น เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 “สุชาติ เหล่าปรีดา” มีการขายหุ้น MGI จำนวน 50,000 หุ้น ที่ราคา 20.00 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 1,000,000 บาท และในวันเดียวกัน ได้มีการขายหุ้นออกมาอีก 100,000 หุ้น ที่ราคา 16.90 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 1,690,000 บาท รวม 150,000 หุ้น คิดเป็นเงิน 2,690,000 บาท เมื่อรวมขายหุ้น MGI ทั้ง 2 วัน 4 รายการ 250,000 หุ้น คิดเป็นเงิน 3,577,500 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 “สุชาติ เหล่าปรีดา” มีการซื้อหุ้น MGI จำนวน 50,000 หุ้น ที่ราคา 18.40 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 920,000 บาท
ส่วนเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2566 “จิรศิลป์ จยาวรรณ” กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ มีการขายหุ้น MGI จำนวน 100,000 หุ้น ที่ราคา 9.25 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 925,000 บาท และในวันเดียวกัน ได้มีการขายหุ้นออกมาอีก 100,000 หุ้น ที่ราคา 10.00 บาท/หุ้น คิดเป็นเงิน 1,000,000 บาท รวม 200,000 หุ้น คิดเป็นเงิน 1,925,000 บาท
ดังนั้นเมื่อรวมกรรมการทั้ง 2 คน ขายหุ้น MGI ออกไป รวม 450,000 หุ้น คิดเป็นเงิน 5,502,500 บาท
