ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 12.59 จุด รับแรงกดดันกลุ่มแบงก์-บาทอ่อน

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (22 ม.ค.) ปิดตลาดที่ 1,369.92 จุด ปรับลดลง 12.59 จุด หรือลดลง 0.91% มูลค่าการซื้อขาย 51,505.59 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,383.51 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,369.42 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 667.68 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิ 60.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 4,000.90 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,607.96 ล้านบาท  

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ รับแรงกดดันจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประเมินว่าเป็นผลจากผลประกอบการไตรมาส 4/2566 อย่างในรายของ KTB กำไรไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท (-25%YoY -41%QoQ) แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะขยายตัว 23%YoY และกำไรก่อนสำรองขยายตัว 15%YoY อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิหดตัวหนัก (-25%YoY) และต่ำกว่าคาด 32% เป็นผลจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้น (+74%YoY) เพราะลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่ง 

ขณะที่ KBANK ราคาหุ้นก็ปรับลงแม้ผลประกอบการไตรมาส 4/2566 จะดีกว่าคาดราว 7% แต่คุณภาพลูกหนี้เห็นสัญญาณอ่อนแอจากการที่ลูกหนี้ชั้น 2 (Stage 2) เร่งตัวขึ้นจาก 1.79 แสนล้านบาทในช่วงเดือน ก.ย.2566 มาเป็น 1.85 แสนล้านบาท พร้อมกับลูกหนี้ชั้น 3 (Stage 3) ก็เร่งตัวขึ้นเช่นกันจาก 8.7 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือน ก.ย. 2566 มาเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท 

ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจากตลาดหุ้นฮ่องกงและจีน นอกจากนี้ สัญญาณค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องจะสร้างแรงกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ 

โดยคืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม 

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,360-1,380 จุด  

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,405.48 ล้านบาท ปิดที่ 120.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 4,807.47 ล้านบาท ปิดที่ 16.20 บาท ลดลง 1.90 บาท
TTB มูลค่าการซื้อขาย 3,198.41 ล้านบาท ปิดที่ 1.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,920.36 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,444.91 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ลดลง 0.75 บาท