AHC วางเป้าปี 67 กำไรโตเลข 2 หลัก จ่อเซ็นพันธมิตรไต้หวันปลาย Q1/67
AHC เปิดแผนธุรกิจปี 67 ลุยปรับโฉมใหม่ สร้างจุดแข็งเพิ่มโอกาสการแข่งขัน พัฒนาบริการเฉพาะทาง เล็งเซ็นสัญญาพันธมิตรไต้หวัน ปลายไตรมาส 1/67 นำเข้าผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกดูแลผู้ป่วย แย้มเจรจาพันธมิตรอีกหลายรายหวังขยายฐานลูกค้า ดันกำไรปีนี้โตเลข 2 หลัก รายได้โตไม่ต่ำกว่า 15%
นายสิริพจน์ มาโนช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด (มหาชน) หรือ AHC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจปี 2567 AHC ตั้งเป้าหมายมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,829.16 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากรายได้ประกันสังคม 20% รายได้ทั่วไป 75% และรายได้อื่นๆ 5% อีกทั้งคาดกำไรสุทธิจะเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลัก เพื่อให้อยู่ในค่ากลางของโรงพยาบาลในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีกำไรสุทธิเติบโตประมาณ 12% จากในช่วงที่ผ่านมา AHC มีกำไรสุทธิเติบโตประมาณ 9%
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2567 AHC วางกลยุทธ์สร้างจุดแข็งเพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขัน ยกระดับความเชี่ยวชาญการแพทย์ พัฒนาบริการเฉพาะทาง ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้ AHC จัดศูนย์ทางการแพทย์เฉพาะทาง เพื่อขยายศักยภาพการดูแลรักษากลุ่มแม่และเด็กแบบครบวงจร โดยมีการจัดให้มีหมอเด็ก (กุมารแพทย์) ที่ประจำการอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดให้มีทีมแพทย์เฉพาะทางเพื่อรองรับการดูแล รักษา ผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อน เช่น โรคระบบประสาท โรคกระดูกและข้อ โรคหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ
ขณะที่โรงพยาบาลเอกชล 2 มุ่งเน้นรับสิทธิประกันสังคม และสิทธิร่วมต่างๆ รวมทั้งมีแผนจัดตั้งศูนย์เฉพาะทางมากขึ้นเช่นกัน เริ่มจากการเปิดให้บริการดูแลกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ (Palliative Care) เพื่อขยายบริการให้สามารถรองรับการรักษาพยาบาล ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
“จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยของโรงพยาบาล พบว่ามีสัดส่วนผู้ใช้บริการกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็ก รวมกันกว่า 65% ของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการแพทย์ พยาบาล ดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งอัตราการใช้บริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลจึงปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสและเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นในอนาคต” นายสิริพจน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จากการที่ธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เริ่มเข้ามาในธุรกิจ Healthcare มากขึ้น ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น ดังนั้น AHC จึงต้องสร้างความแตกต่าง โดยการหาพันธมิตรระดับนานาชาติ
เริ่มจากเมื่อเดือน พ.ย.2566 AHC ได้ทำความตกลงกับ ID Hospital โรงพยาบาลเฉพาะทางประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งให้บริการด้านสุขภาพและความงามครบวงจร (Wellness & Plastic surgery) แบบ Exclusive Partnership ในการเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้สนใจในการทำศัลยกรรมที่ประเทศกเกาหลี เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด
ประกอบกับวางแผนการตลาดสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ คนวัยทำงาน นักศึกษา ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ สร้างการรับรู้เพิ่มขึ้นในวงกว้าง โดยปัจจุบันมี 2 เคส ที่เดินทางไปทำศัลยกรรมที่ประเทศกเกาหลี คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในเดือน มี.ค.นี้
อีกทั้ง AHC อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรจากประเทศไต้หวัน ในการนำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเข้ามาดูแลผู้ป่วยและดูแลผิว คาดว่าจะได้เซ็นสัญญาในช่วงปลายไตรมาส 1/2567 หรือต้นไตรมาส 2/2567
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับนานาชาติอีกหลายราย ในการขยายศักยภาพบริการการแพทย์เฉพาะทาง ขยายโอกาสทางธุรกิจและกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อยกระดับการดูแลรักษา ซึ่งจะช่วยเสริมให้ธุรกิจโรงพยาบาล มีผู้ใช้บริการที่หลากหลายมากขึ้น และช่วยสร้างฐานรายได้ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ทั้งนี้ ในปี 2567 AHC วางงบลงทุนไว้ที่กว่า 100 ล้านบาท ลงทุนปรับปรุงด้านอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ห้องพักผู้ป่วยชั้นอื่นๆ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับปรุงห้องผ่าตัด (OR) และห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) คาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ และหอพักผู้ป่วยชั้น 10 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งมีแผนลงทุนปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีจากปี ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท/ปี
นายสิริพจน์ กล่าวว่า AHC ยังได้วางกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแรงชัดเจน ขยายธุรกิจต่างๆ อาทิ Wellness, Joy Center และผ่าตัดส่องกล้อง เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งดูแลบริหารจัดการค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มกำไร รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร นำไปสู่การเป็นผู้นำด้านความหลากหลายในบริการทางการแพทย์ด้วยมาตรฐานและเครือข่ายพันธมิตรทางการแพทย์ในระดับสากล เพื่อสุขภาพที่ดีของชุมชนภาคตะวันออก ภายในปี 2571