posttoday

PTTEP อวดกำไรไตรมาส 2/67 พุ่ง 13.96% แตะ 23,978 ลบ. พร้อมปันผลระหว่างกาล 4.50 บ.

30 กรกฎาคม 2567

PTTEP เผยกำไรไตรมาส 2/2567 ทำได้ 23,977,675 ล้านบาทจากปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น หนุนผลงานครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท ขยายฐานการลงทุนในตะวันออกกลางหนุนปริมาณสำรองปิโตรเลียมเพิ่ม พร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 4.50 บาทต่อหุ้น

     นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิ 23,977,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,938,062 ล้านบาท คิดเป็น 13.96% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 21,039,613 ล้านบาท ผลจากรายได้การขายเพิ่มขึ้น 333 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากปริมาณการขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจากโครงการจี 1/61 และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 

     รวมถึงในไตรมาส 2/2567 ค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 156 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนใหญ่จากโครงการจี 1/61 ตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่โครงการซอติก้า และโครงการเอส 1 มีสินทรัพย์พร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 63 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากโครงการบี 8/32 และ 9 เอ และโครงการคอนแทร็ค 4 มีการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าประมาณการในไตรมาส 2 ปีก่อน รวมทั้งโครงการมาเลเซีย แปลง เอสเค309 และ เอสเค311 และโครงการอาทิตย์มีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 37 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากโครงการในประเทศโอมาน และประเทศแอลจีเรียตามกำไรที่เพิ่มขึ้น

PTTEP อวดกำไรไตรมาส 2/67 พุ่ง 13.96% แตะ  23,978 ลบ. พร้อมปันผลระหว่างกาล 4.50 บ.

     สำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ปตท.สผ.มีรายได้รวม 166,887 ล้านบาท (เทียบเท่า 4,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)) และมีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท (เทียบเท่า 1,177 ล้านดอลลาร์ สรอ.) ผลจากปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 489,879 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

     ด้านราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงเล็กน้อยจากราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ส่วนต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) อยู่ที่ 28.6 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา 76%

PTTEP อวดกำไรไตรมาส 2/67 พุ่ง 13.96% แตะ  23,978 ลบ. พร้อมปันผลระหว่างกาล 4.50 บ.

     "บริษัทมีความคืบหน้าที่สำคัญในส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยได้ขยายฐานการลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 10 ในแปลงสัมปทานกาชา หนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยูเออี ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้บริษัทได้ทันที และช่วยเสริมประโยชน์และประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการร่วมกับโครงการสำรวจอื่นๆ ซึ่งบริษัทมีการลงทุนอยู่แล้วในยูเออี โดยคาดว่าแปลงสัมปทานกาชาจะมีปริมาณการผลิตก๊าซฯประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายในปี 2573 และมีแผนที่จะทำการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี เพื่อสนับสนุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูน"

ปันผลระหว่างกาล 4.50 บาท

     จากผลการดำเนินการดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 14 สิงหาคม 2567 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2567

นำส่งรายได้ให้รัฐกว่า 30,170 ลบ. 

     ในรอบครึ่งปีแรกของปี 2567 ปตท.สผ. ยังได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่น ๆ  จำนวนกว่า 30,170 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ยังเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่รัฐได้รับโดยตรงจากการผลิตปิโตรเลียม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย