posttoday

FM ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ทิ้งหุ้น ลุยลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์ จ่อปิดดีล Q1/68

11 กันยายน 2567

FM ชี้ราคาหุ้นยังต่ำจอง ไม่เกี่ยวผู้ถือหุ้นเดิมขายหุ้นออกตามกระแสข่าว ยันกอดหุ้นแน่น สวนทางพื้นฐานแกร่ง เดินหน้าเข้าลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์ เล็งปิดดีลไตรมาส 1/68 แย้มครึ่งหลังปี 67 ดีกว่าครึ่งปีแรก รับลูกค้าเกาหลี ดันปี 67 รายได้พุ่ง 7,000 ล้านบาท และปี 68 รายได้โต 10-15%

นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาไอพีโอที่ 5.40 บาท/หุ้น ไม่เกี่ยวกับผู้ถือหุ้นเดิมขายหุ้นออกไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ ยืนยันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งครอบครัวดุษฎีโหนด และกองทุนนอร์ทเฮเว่น ไทย ไพรเวท อิควิตี้ โดมินิค คอมปานี (ฮ่องกง) ยังคงถือหุ้น FM และพร้อมที่จะถือลงทุนระยะยาว เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตที่ดี 

“จากการปิดสมุดทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้นเดือน ส.ค.2567 พบว่า นอร์ทเฮเว่น ไทยฯ ไม่ได้ขายหุ้นออกไป ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นเท่าเดิม เพราะเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด” นายณัฐพล กล่าว

ขณะเดียวกัน ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแข็งแกร่ง และมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนในการสร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทเดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจารูปแบบการลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้าง New Growth น่าจะมีความชัดเจนภายในปลายปี 2567 และทำ Due Diligence ในช่วงต้นปี 2568 จากนั้นคาดว่าจะได้จบภายในไตรมาส 1/2568

“ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าลงทุนครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแบ่งกำไรในบริษัทที่เข้าไปลงทุน เบื้องต้นเข้าลงทุนในสัดส่วน 25-35% ขึ้นอยู่กับการดีล และได้นำโครงกระดูกและเครื่องในของบริษัทไปทำอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งบริษัทเป้าหมายที่จะเข้าลงทุน เป็นที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีขนาดกำลังการผลิตที่ประมาณ 2,000 ตัน/เดือน และมียอดขายไม่เกิน 1,000 ล้านบาท/ปี” นายณัฐพล กล่าว 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 20-25% หรือประมาณ 6,900-7,000 ล้านบาท จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 5,791 ล้านบาท โดยรายได้ชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก เติบโต 15-20% และรายได้จากการผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ เติบโต 25-30% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตในอัตราตัวเลข 2 หลัก หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10.16% 

ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งหลังปี 2567 คาดว่าจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ที่มีรายได้ 3,625 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 362 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่รายใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทเกาหลีที่ส่งสินค้าไปทั่วโลก โดยบริษัทจะเริ่มส่งมอบสินค้าชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก ล็อตแรกในช่วงครึ่งหลังปีนี้

ทางด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 10-15% จากปี 2567 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกเฟสแรก เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีกำลังการผลิต อยู่ที่ 27,600 ตัน/ปี เป็น 30,000 ตัน/ปี ในไตรมาส 2/2568 และเฟสที่ 2 เพิ่มเป็น 36,000 ตัน/ปี ในปี 2569 ส่วนผลิตภัณฑ์ไก่ชำแหละ เพิ่มขึ้น 25% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 144,000 ตัว/วัน เป็น 180,000 ตัว/วัน ในปี 2569

รวมถึงชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุกส่งออกในกลุ่มลูกค้าเดิมที่ยังเติบโต และการขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่นรายใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มส่งมอบสินค้าได้ในปี 2568 

ทั้งนี้ ในปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากในประเทศ 50% และส่งออก 50% โดยกลุ่มลูกค้าส่งออก แบ่งเป็นยุโรป 40% ญี่ปุ่น 28% จีน 19% และมาเลเซีย 13% ซึ่งเป้าหมายระยะยาวจะเป็นยุโรป 35% ญี่ปุ่น 35% ส่วนอีก 30% มาจากประเทศอื่นๆ