1500 ยิ่งใกล้ยิ่งน่าขาย! โฟกัสหุ้นราคาขึ้นน้อย-กำไรปีหน้าโตต่อ

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.15% และ S&P500 ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แรงหนุนหลักมาจากการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.79% นักลงทุนกังวลกับเศรษฐกิจยุโรปและจีนจะกดดันอุปสงค์

     เมื่อวานที่ผ่านมามีการรายงานประมาณการดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Flash PMI) ยุโรป และสหรัฐฯ ฝั่งยุโรปพบว่าส่วนใหญ่แล้วแย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์และต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ส่วนสหรัฐฯรายงาน Flash PMI ภาคผลิตที่ 47 แย่กว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 48.6 และ ภาคบริการที่ 55.4 ใกล้เคียง Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ สาเหตุหลักที่ PMI ภาคผลิตลดลงมาจากคําสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงในอัตราเร็วที่สุดตั้งแต่ ธ.ค.22 ภายหลังจากทราบผลข้างต้นพบว่านักลงทุน มองลบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯสะท้อนผ่านการปรับลงเล็กน้อยของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปี พร้อมกับ US Dollar อ่อนค่าเล็กน้อย โดย CME FED Watch ให้น้ําหนักราว 53% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ย. 

     สําหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆแต่มีรายงานว่ากองทุนวายุภักษ์ขายได้ตามเป้าที่ 1.5 แสนล้านบาท มองปัจจัยข้างต้นเป็นตัวสนับสนุนหุ้นไทยในแง่จํากัด Downside โดยหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อยพร้อมกับมีการเติบโตกำไรทั้งในปีนี้และปีหน้าจะเป็นเป้าหมายประกอบไปด้วย (ITC, BCH, TU, BEM, CPALL, MINT) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯจากสถาบัน CB Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 103.9 

     วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,440 - 1,460 จุด ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนหากดัชนีปรับเข้าใกล้ 1,500 จุดหรือเกินกว่า 1,500 จุดขึ้นไปเป็นจุดที่ควรมองฝั่งทํากําไรมากขึ้นด้วย Valuation ที่แพง ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงๆ เน้นหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อยและเป็นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นของรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) สนามบิน (AOT) โรงแรม (MINT)

     หุ้นแนะน่าชื้อวันนี้ คือ MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท) ซื้อขายที่ EV/EBITDA’24 ที่เพียง 6x ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังของบริษัทที่ 19x และของกลุ่มฯ ที่ 16x ตามลําดับ สะท้อนว่าปัจจุบัน MINT มีราคาที่ถือว่าไม่แพงเมื่อ พิจารณาร่วมกับ 1) ประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นต่อเนื่อง EBITDA Margin 27% ในปี 2023 (+0.5 ppts YoY, +8.8 ppts จาก 2019) และ 2) แผนขยายเครือข่าย ธุรกิจ Assets Light ที่มีอัตรากําไรขั้นต้นฉลี่ยสูงกว่าธุรกิจแบบเดิม

     AOT (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท) กําไรสุทธิปี 25 อยู่ที่ 22,780 ล้านบาท (+17%YoY) โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับผลดีจาก จํานวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 139 ล้านคน จากระดับ 120 ล้านคนในปี 24 ขณะที่ผลประกอบการงวด FY3Q24 มีกําไรสุทธิ 4,563 ล้านบาท (+45%YoY) เพิ่มตาม จํานวนผู้โดยสารที่มี 28.9 ล้านคน (+16%YoY)

เคาะกรอบ 1438-1462

     ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” แนวต้าน 1,458 / 1,462 จุด แนวรับ 1,442 / 1,438 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้น ดัชนี S&P500 +0.28% หนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐประคองตัวได้ แม้ดัชนี PMI ผลิต ก.ย.24 (เบื้องต้น)จะต่ำกว่าคาด อยู่ที่ 47 จุด หดตัว (< 50 จุด) เป็นเดือนที่ 3 vs prev. ที่ 47.9 จุด แต่ภาคบริการ (65-70% ของ GDP)  ดีกว่าคาด อยู่ที่ 54.4 จุด ทรงจาก prev. และอยู่ในระดับขยายตัวนับจาก ก.พ.23 ยังเป็นจิตวิทยาหนุนสินทรัพย์เสี่ยง 

     ฝั่งเอเชียจีน PBOC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (reverse repurchase rate) 14 วัน ลง 10 bps และวันนี้ติดตามผู้ว่า PBOC แถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนภายในแรงขับเคลื่อนยังอยู่ที่พัฒนาการเศรษฐกิจที่คาดหวังได้จากประชุม ครม. คาดมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว และ Mega Projects ผสานเม็ดเงินใหม่กองทุนวายุภักษ์ และโอกาสเห็นการเพิ่มน้ำหนักจากการ Rebalance ดัชนี MSCI และ FTSE ระยะถัดไป 

     มอง SET วันนี้ฟื้น หุ้นนำ คือ หุ้น Domestic (ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, รับเหมา, ธนาคาร เช่าซื้อ) หุ้นได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยขาลง เงินบาทแข็งค่า (การบิน โรงไฟฟ้า) หุ้น China Plays เก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้แนะ AOT, BBL, GPSC

     ส่วนสัญญาณทางเทคนิค แท่งเทียนทำปิดในลักษณะของ SPINNING TOP โดยปิดต่ำกว่าระดับ VWAP แต่ยังสามารถประคองตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ผสาน MACD มีสัญญาณ BULLISH ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สัญญาณ OVERBOUGHT ที่เกิดขึ้น จากเครื่องมือบางตัว อาทิ MODIFIED STOCHASTIC, RSI รวมถึง VOLUME ที่กลับมาชะลอตัวลง ส่งผลให้เริ่มมีแรงขายกดดัน ฉะนั้นยังให้น้ำหนักดัชนีในระยะสั้นยังมีภาพแกว่งตัว SIDEWAY ดังนั้นแนะนำนักลงทุนระยะสั้นอยู่ในด้านซื้อเมื่ออ่อนตัวเป็นหลัก ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาวยังเน้นถือลงทุน หรือ RUN TREND ต่อ 

เก็งกำไร
SPRC เป้า 7.20 / 7.55 บาท แนวรับ 6.75 บาท จุดตัดขาดทุน 6.6 บาท
ITTHI เป้า 2.44 / 2.62 บาท แนวรับ 2.30 บาท จุดตัดขาดทุน 2.22 บาท
INET เป้า 4.96 / 5.30 บาท แนวรับ 4.76 บาท จุดตัดขาดทุน 4.70 บาท
NAT เป้า 6.00 / 6.30 บาท แนวรับ 5.60 บาท จุดตัดขาดทุน 5.40 บาท

ยอดจองซื้อ “กองทุนวายุภักษ์” ทะลุ 1.9 แสนล้านบาท

ปล่อยให้ไหลไป! SCC ราคาร่วง 9 บาทแม้แจงไฟไหม้โรงงานกดยอดขาย 0.04%

กลุ่มผู้เสียหายคดี STARK ลุ้น ศาลฯนัดสืบพยาน 6-8 พ.ย.นี้