2024 ปีทองของหุ้น AI ขึ้นแท่นขวัญใจนักลงทุน

ปี 2024 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราวในวอลล์สตรีท โดยปีนี้ AI ยังคงเป็นเทรนด์ร้อนแรงที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจต่อเนื่องเป็นปีที่สอง หลายบริษัทได้ยก AI มาพูดถึงในการนำเสนอผลประกอบการที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI หรือมีแนวโน้มจะใช้ประโยชน์จาก AI ในอนาคต โดยดัชนี Russell 1000 พบว่า 3 ใน 5 ของหุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2024 นี้ล้วนประสบความสำเร็จจากการนำ AI เข้ามาใช้

บริษัทซอฟต์แวร์ Applovin (APP) ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้จากโฆษณาถึง 66% ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในไตรมาสเดียวกัน  หลังประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้นของ Applovin ทะยานขึ้นประมาณ 50% และเพิ่มขึ้นกว่า 740% ในปีนี้จนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา

Palantir Technologies (PLTR) เป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปีนี้ โดยราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นถึง 360% จากความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่นำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ในการประชุมผู้ถือหุ้นล่าสุด ผู้บริหารได้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยให้ลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเติบโตขึ้นถึง 30% ในไตรมาสล่าสุด

Vistra (VST) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีเป็นอันดับสองในดัชนี S&P 500 ประจำปี 2024 หลังจากนักลงทุนตระหนักว่าธุรกิจสาธารณูปโภคที่มักเติบโตช้า สามารถเติบโตได้เร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI ส่งผลให้ราคาหุ้น Vistra พุ่งขึ้นประมาณ 260% ในปีนี้ สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะได้รับผลประโยชน์จากเทรนด์ดังกล่าว

ปัจจุบัน นักลงทุนหันมาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับธุรกิจสาธารณูปโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สะท้อนให้เห็นจากการที่ Microsoft บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ได้เข้าลงทุนใน Constellation Energy Group (CEG) เพื่อร่วมดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการจ่ายไฟให้กับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของ Microsoft ทำให้ราคาหุ้นของ Constellation พุ่งสูงขึ้นกว่า 90% ในปีนี้

Nvidia (NVDA) ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้สร้างความฮือฮาให้กับตลาดหลังจากหุ้นของบริษัททะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 180% ในปีนี้ นับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงกระแสความสนใจในเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอของบริษัท เปิดเผยว่า ความต้องการชิปของ Nvidia นั้นสูงเกินคาด ทำให้ผลประกอบการในแต่ละไตรมาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม Nvidia ไม่ใช่บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่เพียงรายเดียวที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI บริษัท Broadcom (AVGO) ก็ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เช่นกัน  โดยราคาหุ้นของ Broadcom เพิ่มขึ้นกว่า 110% ในปีนี้ จากความต้องการชิปที่ออกแบบมาเฉพาะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Broadcom กลายเป็นบริษัทสหรัฐฯ รายที่ 9 ที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม หลังจากทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และประกาศว่ากำลังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่3 เจ้าเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ออกแบบเฉพาะทาง