SET ปรับฐาน กรอบ 1,300-1,335 จุด ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า กดดันจิตวิทยาการลงทุน
บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดหุ้นไทย “ย่อสร้างฐาน” ในกรอบ 1,300-1,335 จุด ทรัมป์ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา-เม็กซิโก-จีน กดดันจิตวิทยาการลงทุนมากขึ้น ชู “SAWAD” เคาะเป้า 43 บาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงกว่า -6.1% ตอบรับความกังวลจากปัจจัยภายนอก ทั้งแนวโน้มที่ FED จะไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะสั้น ผสานกับนโยบายของทรัมป์ ที่เริ่มเข้มข้นมากขึ้น
โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก เป็นอัตราภาษี 25% นอกจากนี้ ยังปรับอัตราภาษีสินค้าจีน เพิ่มอีก 10% ทั้งหมดมีผลวันที่ 1 ก.พ. เพิ่มจิตวิทยาลบต่อตลาด โดยในช่วงถัดไปจับตาภาษีในกลุ่มยุโรป รวมทั้งประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับที่สูง
สำหรับการลงทุนในเดือน ก.พ. คาดตลาดยังคงแกว่งผันผวน พยายามสร้างฐาน หลังจาก SET ตอบรับปัจจัยลบในช่วงเดือน ม.ค. ค่อนข้างมากจนทำให้ Valuation ของ SET ล่าสุดเข้าสู่ PE 13.7 เท่า หรือเทียบเคียงค่าเฉลี่ย PE 10 ปีย้อนหลัง -2S.D. บ่งชี้ตลาดอยู่ในระดับที่ไม่แพง อาจเป็นปัจจัยจำกัด Downside โดยเดือนนี้ประเมินกรอบแกว่ง 1,270-1,380 จุด แนะติดตามการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/2568 ซึ่งหลายอุตสาหกรรมเป็นช่วง High season แต่อาจต้องระวังค่าใช้จ่ายที่อาจสูงในช่วงปลายปีเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีนี้เริ่มมีมาตรการกระตุ้นต่างๆ เพิ่มเติม เช่น มาตรการบรรเทาภาระหนี้, มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจ ส่วนประเด็นต่างประเทศจับตาการดำเนินนโยบายภาษีของทรัมป์ ส่วนวันนี้ แนะเกาะติดดัชนี US ISM ภาคการผลิต และเงินเฟ้อยูโรโซน
คาด SET วันนี้ “ย่อสร้างฐาน” ในกรอบ 1,300-1,335 จุด ทรัมป์ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา, เม็กซิโก และจีน กดดันจิตวิทยาการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ดี SET Valuation อยู่ในระดับไม่แพง (-2SD) อาจช่วยจำกัด Downside risk ส่วนกลยุทธ์ยังเน้นหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรดี
สำหรับวันนี้แนะนำ “SAWAD” ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2568 ขยายตัวทั้ง q-q และ y-y จากสินเชื่อที่คาดกลับมาโตราว 3%q-q ควบคุมต้นทุนทางการเงินได้ดี โดยคาดการขาดทุนรถยึดลดลง และราคารถมือสองเริ่มฟื้นตัว หนุนคาดการตั้งสำรองในไตรมาส 4/2568 ที่ลดลง q-q
คาดกำไรปี 2568 เร่งตัวขึ้น บวกกับล่าสุด Fitch rating ให้อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- คาดจะช่วยให้การ Rollover หุ้นกู้รอบหน้ามีต้นทุนที่ลดลง