แผ่นดินไหวแรงสุดกว่า 100 ปี! SET ย่อรอบสั้น ชี้ 1,150 จุดเอาอยู่!

แผ่นดินไหวแรงสุดกว่า 100 ปี! SET ย่อรอบสั้น ชี้ 1,150 จุดเอาอยู่!

30 มีนาคม 2568

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 28 มีนาคม 2568 รุนแรงสุดรอบกว่า 100 ปี นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยเปิดเทรด 31 มีนาคมนี้อาจเผชิญแรงกดดัน แต่มีโอกาสฟื้นตัว ชี้แนวรับ 1,150 จุดเอาอยู่!

KEY

POINTS

  • เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 28 มีนาคม 2568 รุนแรงสุดรอบกว่า 100 ปี
  • นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยเปิดเทรด 31 มีนาคมนี้

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมาถูกประเมินว่ารุนแรงสุดในรอบกว่า 100 ปี จึงไม่มีพฤติกรรมในอดีตเฉพาะตัวให้อ้างอิง โดยครั้งที่รุนแรงสุดของไทย คือ "สึนามิ พ.ศ.2546 (ค.ศ.2003)" ช่วงนั้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ในทิศทางขาขึ้นผลกระทบจึงเป็นลักษณะย่อระยะสั้นแล้วขึ้นต่อ

แต่รอบนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ในทิศทางขาลงและบรรยากาศการลงทุนยังถูกกดดันด้วยการจัดเก็บภาษีการค้าของสหรัฐฯที่รอชัดเจน 2 เม.ย.2568 นั่นหมายความว่า ดัชนีหุ้นไทยในวันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม 2568 จึงมีโอกาสตอบรับเชิงลบไปก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า หากพิจารณาจากความเสียหายด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ถือว่าอยู่ในระดับที่จำกัด เพราะยังไม่กระทบภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรที่รวมกับประมาณ 40% ของ GDP ขณะที่ภาคบริการที่มีน้ำหนักราว 60% คาดกระทบระยะสั้นในบางกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เพราะโรงแรมในจุดท่องเที่ยวสำคัญยังมีความปลอดภัย 

เมื่ออิงพฤติกรรมของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและไต้หวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในช่วงต้นปี 2567 ตลาดหุ้นถูกกระทบเพียงเล็กน้อย

เหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในญี่ปุ่นและไต้หวันปี 2567 กระทบตลาดหุ้นไม่มาก

1 ม.ค.2567 ที่อิชิคาวะ ตอนกลางของญี่ปุ่น 7.5 ริกเตอร์ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด 4 ม.ค.2567 ลบไปก่อน -0.8% แล้วลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวัน -2.3% ก่อนดึงกลับมาปิดลบเพียง -0.5% 

2 เม.ย.2567 เมืองฮัวเหลียนของไต้หวัน 7.4 ริกเตอร์ ตลาดหุ้นไต้หวันเปิด 3 เม.ย.2567 ลบไปก่อน -0.4% แล้วลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวัน -1.0% ก่อนดึงกลับมาปิดลบ -0.6%

เหตุภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดของไทย คือ สึนามิ 26 ธ.ค.2546 หุ้นไทยเปิดเทรดในวันที่ 27 ธ.ค.2546 จุดต่ำสุดของวันที่ 655.70 จุด ลดลง -2.2% แล้วฟื้นต่อเนื่องมาปิดที่ 663.86 จุด ลดลง -1.0%

เมื่อผนวกกับดัชนีหุ้นไทยที่ตอบรับเชิงลบมาแล้วส่วนหนึ่งในช่วงเปิดภาคบ่ายก่อนที่ตลาดจะปิดไป -0.6% จากปิดช่วงเช้าของวันที่ 28 มีนาคม 2568 ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นกลับระหว่างชั่วโมงการซื้อขายหากเปิดทรุดตัวในช่วงแรก โดยคาดว่ากรอบแนวรับเดิมที่ 1,150-1,160 จุดยังทำงานได้ดี

กลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบโดยตรง คือ อสังหาฯ, รับเหมาก่อสร้าง, ประกันที่เป็น Non Life เช่น  TIPH, TVH รวมถึง THRE ที่เป็นประกันภัยต่อ ส่วนกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบทางอ้อม คือ ท่องเที่ยว และนิคมอุตสาหกรรม 

ขณะที่ กลุ่ม Home Improvement และวัสดุก่อสร้าง เช่น HMPRO, GLOBAL, DOHOME, SCGD รวมถึง กลุ่มที่ปรึกษางานก่อสร้าง เช่น TEAMG อาจเห็นแรงเก็งกำไรในระยะสั้น 

"อสังหา" โดนหนัก

ด้าน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ ที่ 31 มีนาคม 2568 คาดลดลงมาที่ระดับ 1,150 จุด จากปิดการซื้อขายในช่วงเช้าของวันศุกร์ ที่ 28 มีนาคม 2568 ดัชนีปิดที่ 1,175.45 จุด ลดลง -12.45 จุด คิดเป็น -1.05% มูลค่าการซื้อขาย 17,321.58 ล้านบาท ก่อนที่จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวจนหยุดการซื้อขายในช่วงบ่ายในวันดังกล่าว 

โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือ กลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะที่มีโครงการคอนโดมิเนียม SPALI, ORI ต่อมาคือ กลุ่มขนส่งมวลชน BTS, BEM หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวทำให้ต้องหยุดให้บริการ

สุดท้ายคือ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ โรงแรมในประเทศ

ขณะที่ กลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มตกแต่งบ้าน อาทิ HMPRO

Thailand Web Stat