หุ้นไทยปิดร่วง 10.88 จุด ภาษีทรัมป์เขย่าโลก ลุ้นเทคนิครีบาวด์

03 เมษายน 2568

ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 10.88 จุด โบรกฯ ชี้รับแรงขายกลุ่มอิเล็กฯ-แบงก์-นิคมฯ หลังสหรัฐเก็บภาษีนำเข้าหลายประเทศ ไทยโดน 37% ประเมินกรอบเคลื่อนไหววันพรุ่งนี้ 1,150-1,170 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (3 เม.ย.) ปิดตลาดที่ 1,161.81 จุด ปรับลดลง 10.88 จุด หรือปรับลดลง 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 41,064.80 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,164.29 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,156.39จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,859.09 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิ 141.79 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,100.28 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,817.58 ล้านบาท      

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่ประเทศไทยถือว่าโดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 37% จากที่ตลาดคาดไว้ราว 25% เป็นปัจจัยหลักกดดันดัชนีวันนี้

โดยหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย DELTA ถูกเทขายออกมามากกดดันดัชนีราว 7 จุด รวมถึงกลุ่มแบงก์ที่มีแรงขายออกมาจากความกังวลของภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีความเสี่ยงชะลอตัวลงมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่ปรับลงแรงจากความกังวลภาคธุรกิจจะชะลอการลงทุนและชะลอการย้ายฐานการผลิต

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) มีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิค ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,170 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

GULF มูลค่าการซื้อขาย 4,431.91 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท 
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,054.22 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,354.95 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,182.61 ล้านบาท ปิดที่ 23.50 บาท ลดลง 0.80 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,661.33 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 7.00 บาท

Thailand Web Stat