SCC ราคาวิ่งแรง! สัญญาณไตรมาส 1/68 ฉายแววกลับมาพลิกมีกำไร
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC" ปิดการซื้อขายวันนี้(16 ม.ย.2568) อยู่ที่ 148 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท คิดเป็น +3.14% มูลค่าการซื้อขาย 319.31 ล้านบาท ราคาขึ้นสูงสุด 151.50 บาท และลดลงต่ำสุด 143.50 บาท
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ของ "บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC" คาดฟื้นตัว โดย กลุ่มซีเมนต์ คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นหลักๆจากกลุ่มงานราชการ แต่หากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัวจากกำลังซื้อ แต่จากการปรับส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่ายตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมาทำให้ภาพรวมการดำเนินงานดีขึ้นจากไตรมาสก่อน
กลุ่มปิโตรเคมี แม้จะไม่ใช่ฤดูขาย ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตในอุตสาหกรรมลดเหลือ 70% จาก 75% ในไตรมาส 4/2567 แต่ SCC จะมีการใช้กำลังการผลิตมากกว่าอุตสาหกรรม อีกทั้งส่วนต่างราคา HDPE-นาฟทา ปรับตัวเพิ่ม 4 เหรียญ/ ตัน ขณะที่ในส่วนการดำเนินงานของ LSP นั้นคาดยังไม่มีการผลิตจากส่วนต่างราคาที่ 320 เหรียญต่อตัน ไม่ถึงจุดคุ้มทุนในการผลิตแต่จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น 1,200 ล้านบาทต่อเดือน
กลุ่มบรรจุภัณฑ์ การดำเนินงานพลิกกลับมาฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนตามปริมาณขายเพิ่มขึ้น และต้นทุนการผลิตลดลง รวมถึงการดำเนินงานของ Fajar ขาดทุนลดลงจากการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 974 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาส 4/2567 แต่หดตัวจากไตรมาส 1/2567 จากข้อมูลล่าสุดพบว่าส่วนต่างราคา HDPE-นาฟทา กลับมาอยู่ที่ระดับ 400 เหรียญต่อตันอีกครั้ง คาดช่วยให้การดำเนินงานกลุ่มปิโตรฯจะกลับมาฟื้นตัวได้
อีกทั้งหากราคายืนได้ระดับดังกล่าวจะทำให้สามารถกลับมาเดินเครื่องที่ LSP ได้ซึ่งจะช่วยลดผลขาดทุนจาก LSP ลงได้คงต้องรอดูว่าราคาดังกล่าวจะมั่นคงได้หรือไม่
“จากแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 1/2568 ที่กลับมาฟื้นตัวทั้งจากธุรกิจหลักโดยเฉพาะซีเมนต์และบรรจุภัณฑ์ ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เกินระดับ 400 เหรียญ/ ตัน อีกครั้งทำให้ภาพการดำเนินงานมีทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นการขึ้นภาษีของสหรัฐยังต้องดูว่าผลกระทบอาจแรงกว่าคาดทำให้แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์อาจไม่แข็งแกร่งตามกำลังซื้อที่หดตัวได้ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน P/BV เพียง 0.5 เท่า มีส่วนลดมากเกินไป พอมีจังหวะการลงทุนในช่วงสั้นจากภาพการดำเนินงานที่ฟื้นตัว”
เชียร์ซื้อ เคาะเป้า 180 บาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 180 บาท คาดผลกระทบต่อนโยบายภาษีสหรัฐฯ ระยะสั้นยังจำกัด เพราะสัดส่วนรายได้ส่งออกไปสหรัฐฯ เล็กน้อย, Spread ปิโตรเคมีอยู่ในระดับที่มี Downside จำกัด, การปรับตัวลงของต้นทุนน้ำมันช่วยหนุน Spread
แนวโน้มไตรมาส 1/2568 คาดจะมีกำไรสุทธิ 602 ล้านบาท ลดลง -75%จากปีก่อนด้วยธุรกิจปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาส 4/2567 คาดฟื้นตัว QoQ พลิกจากขาดทุน หนุนจากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจวัสดุก่อสร้างและบรรจุภัณฑ์, โรงงาน VCM ที่ปิดซ่อมกลับมาผลิต,
ต้นทุนวัตถุดิบธุรกิจบรรจุภัณฑ์ลดลง หากไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามคาดจะคิดเป็น 8%ของทั้งปี แต่แนวโน้มปี 2568 เร่งตัว QoQ คงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 7.4 พันล้านบาท
"แนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ฟื้นตัว QoQ ต่อเนื่อง ผลกระทบนโยบายภาษียังจำกัด สงครามการค้าผ่อนคลายช่วงสั้น Valuation หุ้นไม่แพง จึงสามารถเก็งกำไรการฟื้นตัว คงราคาเหมาะสม 180 บาท ทั้งนี้ เราเน้นเก็งกำไรรอบสั้นเท่านั้นเพราะสถานการณ์ตอบโต้นโยบายการค้ายังเปลี่ยนแปลงได้ตลอด"