ทองคำจะลงต่ำถึงไหน?
โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัญยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก
โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัญยศิริ ประธานกลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการที่อีซีบีประกาศอัดฉีด QE เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมของตลาดการเงินมุ่งเน้นไปที่ค่าเงินดอลลาร์อย่างชัดเจน โดยค่าเงินดอลลาร์เองมีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับ 90 และปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาพักที่ระดับ 95 และปัจจุบันพุ่งขึ้นมาที่ระดับ 100.33 นับว่าเป็นจุดที่ดอลลาร์มีการแข็งค่ามากที่สุดในรอบหลายๆปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ในตลาดโลกหลายๆฝ่าย ประเมินว่า โอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นจนหลุดระดับ 1.00 ยูโร/ดอลลาร์ยังมีอยู่สูง โดยมองขั้นต้นที่ะดับ 0.90 ยูโร/ดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 6 เดือนหรืออาจจะเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ เนื่องจากตอนนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าที่ระดับ 1.0499 ยุโร/ดอลลาร์แล้ว ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลกับราคาทองคำที่ถูกกดลงมาหลุดระดับ 1,200 เหรียญ และปัจจุบันราคาทองคำมีการทรงตัวบริเวณ 1,150 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับแนวรับด้านล่างที่สำคัญ
ด้านทองคำในรูปของไทยบาทกลับมาอยู่บริเวณ 18,000 บาท/บาททองคำ โดยมีการแกว่งตัวขึ้นและลง ซึ่งระยะหลังได้รับผลมาจากสภาพของค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่อ่อนค่าทะลุ 32.50 และ 32.60 บาท/ดอลลาร์ขึ้นมา ตอนนี้เรียกได้ว่า ค่าเงินบาทอ่อนมาทดสอบระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นระดับแนวต้านที่สำคัญเลยทีเดียว
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจนหลุดระดับ 1,160 เหรียญลงมา และทดสอบระดับ 1,150 เหรียญหลายครั้ง ขณะที่แรงซื้อจากความต้องการทองคำจากฝั่งโซนเอเชียที่เข้ามาอย่างหนาแน่น จึงทำให้ราคาทองคำแท่งดีดกลับขึ้นมาและทรงตัวเหนือ 1,150 เหรียญได้ แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าอยู่ก็ตาม
ในทางเทคนิคเกิดสภาวะ Oversold อย่างมาก อันจะเห็นได้จากสภาพทองคำในรายชั่วโมงและรายวัน โดย Oscillator หลายครั้งเริ่มมีการเกิดสภาวะ Divergence แต่ราคาทองคำเองก็ยังไม่สามารถดีดกลับขึ้นไปได้ อันจะเห็นได้จาก MACD Histogram และ RSI ในเชิงเทคนิคจึงวิเคราะห์ได้ว่า ในระยะสั้นราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ก็คงไม่สูงนัก โดยระดับ 1,175 เหรียญจะเป็นแนวต้านแรกที่สำคัญ และระดับ 1,190 เหรียญจะเป็นแนวต้านสำคัญที่สองเช่นเดียวกัน ในขณะที่แนวรับบริเวณ 1,150 เหรียญ ถ้าหลุดลงมาก็มีโอกาสที่จะทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 1,138 เหรียญก็มีสูงเช่นเดียวกัน
กลยุทธ์การลงทุนในทองคำ
การบริหารความเสี่ยงมีความสำคัญอย่างมากกับสภาวะตลาดเช่นนี้ การไม่ฝืนกับสภาวะตลาดเป็นเรื่องที่นักลงทุนในทองคำควรที่จะต้อง Mark to Market ทุกวัน และต้องมีความพร้อมที่จะตัดขาดทุนเมื่อเกิดสภาวะขาดทุนมากในระดับ 400 บาท/บาททองคำ ควรจะต้องมีวินัยอย่างชัดแจ้ง รวมทั้งการที่จะต้องเข้าใจถึงการใช้ Leverage ในการลงทุนในระดับที่ไม่สูงนัก คือระดับประมาณ 2-3 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนโดยทั่วไป แต่ถ้าเมื่อใดที่ท่านทำการ Leverage ตั้งแต่ 4 เท่าขึ้นไป ความเสี่ยงที่ท่านจะต้องเข้าใจและกลับตัวให้เร็วก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน
MTS Gold แม่ทองสุก ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในทองคำได้จัดสัมมนาอยู่เสมอในการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยใช้ Technical Analysis และหลักในการบริหารเงินลงทุน ทั้งในการควบคุมพอร์ตและการใช้ Stop Loss เพื่อหยุดสภาวะขาดทุนให้เหมาะสม สิ่งที่นักลงทุนในทองคำจะประสบความสำเร็จได้คือการเฝ้าระวังและติดตามการลงทุน โดยติดตามสภาวะพอร์ตของตนเองให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้
ดังนั้น ความเข้าใจในการลงทุนที่ดี จึงเป็นหลักที่สำคัญที่ MTS Gold แม่ทองสุกจะแนะนำให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยท่านสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของเรา www.mtsgold.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์เฉพาะสำหรับการติดตามวิเคราะห์ทองคำอย่างเจาะลึก โดยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ขอให้ท่านโชคดีในการลงทุน และขอให้ท่านใช้ประโยชน์จากความรู้ในการทำกำไรในทองคำในสภาวะขาลงเช่นเดียวกัน…