บิ๊กตู่ประกาศเร่งแก้หนี้เด็กกู้กยศ.
บิ๊กตู่ประกาศเร่งแก้หนี้เด็กกู้กยศ. 5 ล้านราย รวมเป็นวงเงินมากกว่า 6 แสนล้านบาท แต่ยังมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้สูงถึงมากกว่า 60%
พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้โพสตืเฟสบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า
พี่น้องประชาชนไทยที่รักทุกท่าน
วันนี้ที่ประชุม ครม. มีสองประเด็นที่สำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ผมอยากจะนำมาแจ้งให้ทุกท่านทราบ ดังนี้ครับ
เรื่องที่ 1 โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ในวันนี้ ครม.ได้เห็นชอบข้อเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก เป็นครั้งที่ 2 เพิ่มเติมอีก 12 จังหวัด ซึ่งเมื่อรวมกับที่ได้อนุมัติไปแล้ว 23 จังหวัดในการประชุมครั้งที่แล้ว รวมเป็นทั้งสิ้น 35 จังหวัด จำนวนโครงการที่ผ่านการอนุมัติ 4,303 โครงการ รวมกรอบวงเงินจัดสรรที่ 9,757.86 ล้านบาท ให้กับจังหวัดต่อไปนี้คือครั้งที่ 1 จำนวน 23 จังหวัด 2,117 โครงการ วงเงินรวม 6,170.65 ล้านบาท
โดยโครงการทั้งหมด เป็นโครงการระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19 มีระยะเวลาในการดำเนินการระหว่างเดือน ส.ค.-ธ.ค. 64 ซึ่งจากที่อนุมัติแล้ว 4,303 โครงการ คาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างน้อย 95,500 คน มีผู้ได้รับประโยชน์มากกว่า 18 ล้านคน และโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ยังจะมีการอนุมัติครั้งต่อๆไปสำหรับจังหวัดอื่นๆที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งจะได้นำเสนอต่อ ครม.ในการประชุมต่อๆไปโดยเร็วที่สุดหลังจากพิจารณาอนุมัติโครงการตามที่ได้เสนอมาแล้ว
เรื่องที่ 2 การแก้ไขปัญหากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
ในปัจจุบันมีการกู้ยืมเงินของ กยศ. มากกว่า 5 ล้านราย รวมเป็นวงเงินมากกว่า 6 แสนล้านบาท แต่ยังมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้สูงถึงมากกว่า 60% และยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลให้สั่งการให้คณะกรรมการ กยศ. ได้แนวทางในการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ. ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้ออกมาตรการจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ประเภทต่างๆ เช่นลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี และเพิ่มส่วนลดเงินต้นจาก 3% เป็น 5% สำหรับผู้ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ส่วนผู้ไม่สามารถชำระหนี้ชั่วคราว ก็มีการผ่อนผัน จากเดิมจ่ายขั้นต่ำ 100 บาท ลดลงเหลือเพียง 10 บาทต่อเดือน ส่วนกลุ่มที่ผิดชำระหนี้ ก็มีการลดเบี้ยปรับ 100% ในการชำระหนี้ปิดบัญชี และเพิ่มส่วนลดเบี้ยปรับจาก 75% เป็น 80% เพื่อให้เบี้ยปรับลดลง สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะปกติ พร้อมทั้งลดอัตราเบี้ยปรับลงเหลือ 0.5% ต่อปี ส่วนลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องนั้น มีนโยบายให้ชะลอการฟ้องร้องคดีและบังคับคดีออกไป และสำหรับลูกหนี้รายใหม่ ให้ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืน นอกนั้นจะยังมีแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อผ่อนคลายภาระให้กับลูกหนี้ทุกประเภทด้วย
ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ เป็นความพยายามของรัฐบาลในการหาทุกหนทางในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายลง รัฐบาลจึงต้องเตรียมมาตรการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ให้ถึงประชาชนแต่ละจังหวัดให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะภายในสิ้นปีนี้ เราจะก้าวไปสู่การร่วมกันสร้างประเทศขึ้นมาใหม่ด้วยกันอย่างยั่งยืนและมั่นคง ให้อนาคตของประเทศ มีรากฐานที่แข็งแรงทั้งระบบสาธารณสุขและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อประโยชน์และความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร มีอาชีพใด อยู่ที่จังหวัดใดก็ตาม ทุกคนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ขอให้เราทุกคนมาร่วมมือ “สร้างประเทศ” ร่วมกันครับ