posttoday

เกาะติดน้ำท่วมภาคใต้ เข้าสู่วันที่ 11 เดือดร้อน 664,173 ครัวเรือน

02 ธันวาคม 2567

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานน้ำท่วมภาคใต้ เข้าสู่วันที่ 11 ครอบคลุมพื้นที่ 10จังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ประชาชนเดือดร้อนสะสม 664,173 ครัวเรือน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 2 ธ.ค. 2567 มีพื้นที่ประภัย 10 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่  87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับ ผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 22 ราย (จ.พัทลุง 1 ราย สงขลา 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ยะลา 4 ราย นราธิวาส 2 ราย)

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7จังหวัด (นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) 47 อำเภอ 349 ตำบล 2,174 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 434,438 ครัวเรือน (ที่มา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
 

สำนักงานทรัพยากรนำแห่งชาตอ (สทนช. ) ประกาศฉบับที่ 20/2567 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ไปจนถึงวันที่ 4ธ.ค.2567 ดังนี้

1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 

2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม

3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำตรัง คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

 

ฝนใต้จ่อตกหนักอีกระลอก ชป.จับตาสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน เปิดเผยว่าหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันระยะต่อไป ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 3 - 5 ธ.ค. 67

ด้านสถานการณ์ปัจจุบัน มีพื้นที่น้ำท่วม 7 จังหวัด ดังนี้

  • จ.ตรัง มีน้ำท่วมขัง 2 อำเภอ คือ ปะเหลียน และนาโยง
  • จ.ปัตตานี น้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ล้นตลิ่ง ส่งผลให้น้ำท่วมขัง 12 อำเภอ ได้แก่ สายบุรี ทุ่งยางแดง ไม้แก่น แม่ลาน มายอ หนองจิก เมืองปัตตานี โคกโพธิ์ กะพ้อ ยะรัง ยะหริ่ง และปานาเระ
  • จ.พัทลุง น้ำท่วมขัง 3 อำเภอ ได้แก่ บางแก้ว ควนขนุน และเขาชัยสน
  • จ.สงขลา น้ำในคลองต่ำล้นตลิ่ง ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง 4 อำเภอ ได้แก่ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และสิงหนคร
  • จ.ยะลา น้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่ง ส่งผลให้น้ำท่วมขัง 8 อำเภอ ได้แก่ เมืองยะลา บันนังสตา ยะหา รามัน กาบัง ธารโต เบตง และกรงปินัง
  • จ.นราธิวาส น้ำในคลองตันหยงมัส แม่น้ำโก-ลก ล้นตลิ่ง และมีน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้น้ำท่วมขัง 11 อำเภอ ได้แก่ เมืองนราธิวาส ยี่งอ บาเจาะ รือเสาะ ศรีสาคร ระแงะ เจาะไอร้อง สุไหงปาดี ตากใบ แว้ง และสุคิริน
  • จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมขัง 7 อำเภอ ได้แก่ เมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ และพระพรหม

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ขนย้ายเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ จากภาคอื่นๆ ที่ไม่ประสบอุทกภัย นำมาสนับสนุนการระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ควบคู่กับการบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม ตลอดจนสิ่งของที่จำเป็น บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้มากที่สุด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์