เทียบค่าตัวแข้งเยาวชนลิเวอร์พูล กับ ทีม"พันล้าน" เชลซี

ฟุตบอลคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ.67 ระหว่างเชลซี กับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่สนุกตื่นเต้น ทั้งสองทีมสู้กันด้วยแท็กติกส์ชนิดคุณทีผมที และมีโอกาสเป็นผู้ชนะทั้งคู่

แต่รายละเอียดเล็กๆในเกม เป็นเจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีกว่า เพราะก่อนเกมลิเวอร์พูลมีผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถมีชื่อในเกมนี้ได้ถึง 11 คน เอาแค่ตัวหลักที่คุ้นชื่ออย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ดาร์วิน นูนเยซ , เทรนต์ อเล็กซานเดอร์- อาโนลด์ , อลีซง เบ็คเกอร์ , เคอร์ติส โจนส์ , ดีโอโก โชต้า และ โดมินิก โซโบสไล หากเป็นโค้ชบางทีมน่าจะเครียดจนแก้เกมไม่เป็นไปแล้ว

แต่ไม่ใช่กับเจอร์เก้น คล็อปป์ที่ทำทีมด้วยนะบบ และมั่นใจในผู้เล่นเยาวชนอะคาเดมี่ของทีม เกมกับเชลซี คล็อปป์ ดันเยาวชนมารอสแตนบายพี่ๆที่ม้านั่งสำรองถึง 6 คน 

ชื่อของ บ๊อบบี้ คล้าร์ก , เจย์เด้น แดนนส์ , เจมส์ แม็คคอนเนลล์ , ลูอี้ คูมาส และ เทรย์ เอ็นโยนี่ คือเด็กเยาวชนวัยไม่เกิน 19 ปีที่เข้ามาอยู่ในลิสต์นัดชิงและไม่มีประสบการณ์บนเวทีชุดใหญ่เกิน 2 นัด

ส่วนคอร์เนอร์ แบร๊ดลีย์ , จาร์เรลล์ ควอนซ่า , ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ รวมถึงเคลเลเฮอร์ ก็เป็นผลผลิตจากทีมเยาวชนลิเวอร์พูล แต่กลุ่มนี้ได้รับความไว้วางใจและทำผลงานได้ดีมาก เมื่อได้รับโอกาสลงสนาม

ส่วนเชลซี นี่คือทีมมหาเศรษฐี ที่มีมิลเลียนแนร์ชาวสหรัฐ อเมริกาอย่าง ท็อดด์ โบลีย์ เป็นเจ้าของและทุ่มเงินมหาศาลซื้อนักเตะเข้ามา เฉพาะฤดูกาลนี้ก็ 11 ตัวแทบจะสร้างทีมใหม่ได้เลย และแต่ละคนค่าตัวแพงรวมกันหลักพันล้านบาท

เราไปลองเทียบค่าตัวของ 2 ทีมนี้กันว่าต่างกันมากแค่ไหน และจะได้คำตอบว่าทำไมการได้แชมป์ คาราบาว คัพ ของลิเวอร์พูล คือการได้แชมป์ที่น่ายกย่องทั้งตัวกุนซือและนักเตะจริงๆ 

เทียบค่าตัวนักฟุตบอล เชลซี VS ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2023-24

(เทียบเป็นเงินบาทใช้ 45 คูณ)

- มอยเซส ไคเซโด้ (ไบรท์ตัน, 99 ล้านปอนด์)

- โรเมโอ ราเวีย (เซาธ์แฮมป์ตัน, 53 ล้านปอนด์)

- คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แอร์เบ ไลป์ซิก, 55.9 ล้านปอนด์)

- โคล พาลเมอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, 40 ล้านปอนด์)

- อเล็ก ดิซาซี่ (โมนาโก, 38 ล้านปอนด์)

- นิโคลัส แจ็คสัน (บียาร์เรอัล, 31 ล้านปอนด์)

- เลสซีย์ อูโกชุกวู (แรนส์, 23 ล้านปอนด์)

- โรเบิร์ต ซานเชซ (ไบรท์ตัน, 19 ล้านปอนด์)

- เดวิส วอชิงตัน (ซานโตส, 13 ล้านปอนด์)

- ดีโจ เปโตวิช (นิว อิงแลนด์, 13 ล้านปอนด์)

- แองเจโล่ (ซานโตส, 12.9 ล้านปอนด์)

ลิเวอร์พูล

- โดมินิค โซบอสซ์ไล (แอร์เบ ไลป์ซิก, 60 ล้านปอนด์) 

- อเล็กซ์ แม็ค อัลลิสเตอร์ (ลิเวอร์พูล, 35 ล้านปอนด์)

- ไรอัน กราเวนเบิร์ก (บาเยิร์น มิวนิค, 34 ล้านปอนด์)

- วาตารุ เอ็นโดะ (สตุ๊ดการ์ท, 17 ล้านปอนด์)

- คอร์เนอร์ แบร๊ดลีย์  (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

 - จาร์เรลล์ ควอนซ่า  (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

- บ๊อบบี้ คล้าร์ก   (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

- เจย์เด้น แดนนส์   (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

- เจมส์ แม็คคอนเนลล์   (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

-  ลูอี้ คูมาส  (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

-  เทรย์ เอ็นโยนี่  (ฟรี - ขึ้นจากทีมเยาวชน)

การได้แชมป์คาราบาว คัพ ของลิเวอร์พูล คือการได้แชมป์ที่ยิ่งใหญ่ จากแท็กติกส์ที่แน่นและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเจอร์เกน คล็อปป์ ที่ใช้เยาวชนเล่นแทนตัวหลักที่เจ็บจนได้แชมป์ สวนทางกับทีมคนรวยอย่างเชลซีที่มีนักเตะค่าตัวมูลค่าพันล้านบาท แต่กลับแพ้ให้เด็กดาวรุ่งไปแบบไม่มีอะไรให้จดจำ

เช่นเดียวกับอนาคตของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าเขาเก่งจริงหรือไม่ และหลังจบฤดูกาลนี้ เชลซีอาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีกก็ได้