รัสเซียเจ้าภาพพันธมิตรซีเรียรุมยำ "ไอเอส"

รัสเซียดึงอิรัก อิหร่าน ซีเรียร่วมเป็นพันธมิตรต่อต้านไอเอส "ปูติน" ชี้มะกันหนุนกบฏไม่ชอบธรรม

การเผชิญหน้าระหว่าง 2 มหาอำนาจสหรัฐและรัสเซีย ในสมรภูมิซีเรียส่อเค้าดุเดือดยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลอิรักจับมือกับซีเรีย อิหร่าน และรัสเซีย เข้าร่วมเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จที่รัสเซียสามารถสร้างแนวร่วมต่อต้านไอเอสอีกหนึ่งแนวร่วม นอกเหนือจากกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้รัสเซียยังขนย้ายยุทโธปกรณ์และบุคลากรทางการทหารมายังซีเรีย เพื่อให้การสนับสนุนรัฐบาล ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด จนสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐเป็นอย่างยิ่ง

วานนี้ กองบัญชาการปฏิบัติการร่วมทางการทหารของอิรักแถลงว่า อิรักจะแบ่งปันข้อมูลด้านความมั่นคงเกี่ยวกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ร่วมกับรัสเซีย ซีเรีย และอิหร่าน นับเป็นก้าวสำคัญในการประสานกำลังต่อต้านไอเอส ที่ยึดครองพื้นที่ของอิรักและซีเรียถึง 1 ใน 3 ซึ่งก่อนหน้านี้อิรักจะร่วมมือเฉพาะกับอิหร่านในการกำราบกลุ่มไอเอส และอิหร่านยังช่วยเหลือมุสลิมชีอะห์ชาวอิรักในการสู้ศึกครั้งนี้ เนื่องจากอิหร่านเป็นประเทศมุสลิมนิกายชีอะห์

แนวร่วมดังกล่าวที่มีรัสเซียเป็นส่วนหนึ่ง มีความแตกต่างจากแนวร่วมที่นำโดยสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงเอาอิหร่านมาเข้าร่วมวง ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่า สหรัฐอาจจำเป็นต้องดึงอิหร่าน ซึ่งเป็นอริกันเข้ามาร่วมศึกต้านไอเอส แต่ความเป็นไปได้มีอยู่ต่ำมาก กระทั่งถูกรัสเซียตัดหน้าไป นอกจากนี้ ยังมีการดึงรัฐบาลซีเรียเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งสหรัฐไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏในการต่อสู้กับรัฐบาลอัลอัสซาด

ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสซีย กล่าวที่กรุงมอสโกว่า การที่สหรัฐให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในซีเรีย ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศและจะไม่มีวันประสบผลสำเร็จ พร้อมชี้ว่ากองกำลังของกลุ่มกบฏที่สหรัฐให้การฝึกฝน กำลังถอนตัวออกจากกลุ่มเพื่อไปร่วมกับไอเอส โดยใช้อาวุธที่ได้รับมาจากสหรัฐนั่นเอง

ปูตินยังยืนยันว่า จะต้องเปิดทางให้รัฐบาลซีเรียเข้าร่วมกับปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มไอเอส ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐปฏิเสธมาโดยตลอด เนื่องจากเลือกที่จะให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ตรงกันข้ามกับรัสเซียที่เลือกสนับสนุนรัฐบาลอัลอัสซาด โดยปูตินชี้ว่าเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรม และการช่วยเหลือรัฐบาลที่ชอบธรรมยังสอดคล้องกับกฎบัตรของสหประชาชาติมากกว่าการสนับสนุนกลุ่มกบฏ