posttoday

เหตุใดชาวเอเชียจึงมีสมองขนาดใหญ่กว่าชาวยุโรป และแอฟริกัน?

29 มกราคม 2560

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการกลายพันธุ์ของยีนชนิดหนึ่ง ในประชากรชาวเอเชียตะวันออก ส่งผลให้มีขนาดสมองใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับชาติพันธุ์อื่น

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าการกลายพันธุ์ของยีนชนิดหนึ่ง ในประชากรชาวเอเชียตะวันออก ส่งผลให้มีขนาดสมองใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับชาติพันธุ์อื่น

การคัดเลือกทางธรรมชาติของประชากรชาวเอเชียตะวันออก ช่วยสนับสนุนการกลายพันธ์ของยีนชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้มันสมองมีขนาดใหญ่ขึ้น รายงานวิจัยใหม่จากทีมนักวิจัยชาวจีน ว่าเหตุใดสมองของคนเอเชียจึงมีขนาดไม่เท่ากับชาวยุโรป หรือชาวแอฟริกา

การสำรวจขนาดสมองของผู้คนทั่วโลก ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน เมื่อ 30 ปีก่อน โดยทำการสำรวจกระโหลกศีรษะของมนุษย์สมัยใหม่ จากหลากหลายประเทศทั่วโลกกว่า 20,000 หัวกระโหลก ผลการสำรวจได้สรุปค่าเฉลี่ยออกมาว่า ชาวเอเชียนั้นมีขนาดของกระโหลกอยู่ที่ 1,451 ลูกบาศก์เซนติเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับ ชาวยุโรปที่มีขนาด 1,362 ลูกบาศก์เซนติเมตร และชาวแอฟริกันอยู่ที่ 1,268 ลูกบาศก์เซนติเมตร

และจากการศึกษาเพิ่มเติม เมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยการสำรวจพบว่า บรรดาชาวเอเชียตะวันออกมักมีกระโหลกศีรษะที่มีขนาดสูงกว่า ซึ่งช่วยบรรจุสมองที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งแต่เดิมนักวิจัยเชื่อว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว การมีสมองที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาอุณหภูมิให้คงที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามทฤษฎีสภาพอากาศนี้ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดชาวจีน และชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในละติจูดเดียวกัน จึงมีขนาดของสมองที่แตกต่างกัน

เหตุใดชาวเอเชียจึงมีสมองขนาดใหญ่กว่าชาวยุโรป และแอฟริกัน?

ล่าสุดทีมนักวิจัยชาวจีนออกมาประกาศว่า ยีนที่มีชื่อว่า CASC5 หนึ่งในยีนที่ควบคุมขนาดของสมอง น่าจะเป็นสาเหตุของความแตกต่างดังกล่าว

ศาสตราจารย์ Su Bing นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์จากสถาบันสัตววิทยาในคุนหมิง ได้ทำการเปรียบเทียบการกลายพันธุ์ของยีน CASC5 ในมนุษย์เป็นครั้งแรก ผลการศึกษาพบว่า ในบรรดาชาวเอเชียตะวันออกอย่างจีน, ญี่ปุ่น และมองโกเลียนั้นมีความถี่สูงที่ยีนดังกล่าวจะกลายพันธุ์ เมื่อเทียบกับชาวยุโรป และชาวแอฟริกาที่การกลายพันธุ์นี้กลับไม่ค่อยเกิดขึ้น ซึ่งยีนดังกล่าวจะส่งผลให้สมองมีเนื้อสีเทามากขึ้น ในขณะที่สาเหตุของการกลายพันธุ์นี่ยังคงเป็นปริศนา แต่เชื่อว่าสาเหตุที่ยังคงมีอยู่ถึงปัจจุบันนั้นเป็นผลมาจากการคัดเลือกทางธรรมชาติ ซึ่งในที่นี้รวมถึงโครงสร้างทางสังคม และค่านิยมทางวัฒนธรรมด้วย

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ Su ระบุว่า การค้นพบดังกล่าวไม่ได้สนับสนุนว่าชาวเอเชียจะมีความเฉลียวฉลาดมากกว่าชาติพันธุ์อื่น ทั้งนี้ศาสตราจารย์ระบุว่า การที่ใครคนใดคนหนึ่งมีขนาดของสมองที่ใหญ่กว่าเดิมนั้น จำต้องแลกมาด้วยสิ่งอื่นเช่น สมองและกระโหลกศีรษะที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้การคลอดเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น และกินทรัพยากรอื่นๆของร่างกาย เช่นมวลความแข็งแรงของร่างกายจะลดลง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวยุโรปจึงมีความแข็งแรงมากกว่าชาวเอเชีย

ทั้งนี้ศาสตราจารย์ Su เชื่อว่าในอนาคต ลักษณะของกระโหลกศีรษะที่ใหญ่กว่าปกตินี้ จะหายไปตามกาลเวลา จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการแต่งงานข้ามชาติพันธุ์มากขึ้น ซึ่งการศึกษาในเรื่องดังกล่าวจะช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการศึกษาเรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์

และผลจากการศึกษายังพบลักษณะของความถี่การกลายพันธุ์ดังกล่าว ในภูมิภาคเอเชียใต้ ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศอบอุ่นอีกด้วย ซึ่งนักโบราณคดีระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องน่าสนใจ ในการหาคำตอบว่าลักษณะของการมีศีรษะที่ใหญ่อาจเป็นที่นิยม ตามทฤษฎีการคัดเลือกทางธรรมชาติของชาลส์ ดาร์วิน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ลักษณะของการมีกระโหลก และมันสมองที่ใหญ่ขึ้นนี้ ก็เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อมนุษย์เดินเท้าออกจากทวีปแอฟริกา เมื่อราว 6 หมื่นปีก่อน