อเมริกันร้อนจนตาย เหยื่อฮีตเวฟพุ่งเป็น4 ราย
สหรัฐร้อนจัดเสียชีวิต 4 ราย ต้องระงับ-ดีเลย์เที่ยวบิน ด้านอังกฤษอุณหภูมิทุบสถิติ 41
สหรัฐร้อนจัดเสียชีวิต 4 ราย ต้องระงับ-ดีเลย์เที่ยวบิน ด้านอังกฤษอุณหภูมิทุบสถิติ 41 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า คลื่นความร้อนในทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ รวมถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากอาการอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไป 4 ราย ในขณะนี้ และทำให้สนามบินต้องยกเลิก หรือดีเลย์เที่ยวบิน เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่จากความร้อนที่สูงขึ้น ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ โดยทางการออกประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ในที่ร่มและดื่มน้ำมากๆ หากออกมากลางแจ้ง รวมถึงใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดเพื่อเลี่ยงภาวะระบบไฟฟ้าล้มเหลว
ทั้งนี้ อุณหภูมิของรันเวย์ใน ท่าอากาศยานนานาชาติ ฟินิกซ์ สกาย ฮาร์เบอร์ ในรัฐแอริโซนา มีแนวโน้มพุ่งขึ้นกว่า 66 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินของสนามบิน ส่งผลให้สนามบินต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 20 เที่ยว ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติแมคคาร์เรน ในลาสเวกัส ของรัฐเนวาดา ต้องดีเลย์เที่ยวบินออกไป เนื่องจากความร้อนสูงมีผลต่อเครื่องยนต์ของเครื่องบิน
ขณะเดียวกัน ในรัฐนิวเม็กซิโก อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 37.8 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่อุณหภูมิที่รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มสูงขึ้นเป็น 52.8 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. โดยคาดการณ์สภาพอากาศ ระบุว่า อุณหภูมิจะลดลงในปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า อุณหภูมิในเดือน มิ.ย.นี้ สูงสุดที่สุดในรอบ 41 ปี โดยอุณหภูมิ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮีตโธรว์ เพิ่มขึ้นไปแตะ 34.5 องศาเซลเซียส สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1976 ที่ 35.6 องศาเซลเซียส ขณะที่สภาพอากาศโดยรวมของประเทศมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเหนือ 30 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ บางพื้นที่เผชิญกับพายุและฝนฟ้าคะนองด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกยังไม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จึงยากจะเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ ซึ่งทำให้เกิดภัยแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย กระทบต่อการปลูกพืชผลในภูมิภาค ขณะที่ทำให้เกิดฝนตกในทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก