สถานการณ์โลก

IMF ขึ้นจีดีพีเอเชีย ลดสหรัฐ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงานประจำเดือน ก.ค. ขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจาก 6.6% เป็น 6.7% ขณะที่ยังขึ้นคาดการณ์ของญี่ปุ่นเป็น 1.3% จากเดิมที่ 1.2% รวมไปถึงขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับประเทศในอาเซียน 5 ชาติ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จาก 5% เป็น 5.1% อีกทั้งคงคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เอาไว้ที่ 3.5% และ 3.6% สำหรับปีหน้า อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐลงจาก 2.3% เป็น 2.1%

โสมแดงยิงมิสไซล์ป่วนโลก

เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) เป็นครั้งที่ 2 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหม ระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวอาจยิงไปไกลถึงแผ่นดินสหรัฐ ครอบคลุมพื้นที่เมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น ลอสแองเจลิส เดนเวอร์ ชิคาโก และเสี่ยงยิงไปถึงนครนิวยอร์กและบอสตันด้วย ซึ่งหลังการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าว ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐ ได้จัดการประชุมร่วมกันเพื่อหารือเรียกร้องใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่รุนแรงยิ่งขึ้น

“อเมซอน” รุกชิงเค้กอาเซียน ประเดิมสิงคโปร์

อเมซอน ยักษ์อี-คอมเมิร์ซจากสหรัฐ เปิดบริการไพรม์ นาว บริการส่งสินค้าฟรีภายในเวลา 2 ชั่วโมง เป็นครั้งแรกในสิงคโปร์ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกในการชิงส่วนแบ่งตลาดผู้บริโภคอาเซียน และเปิดฉากแข่งขันกับอาลีบาบา บริษัทอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่จากจีนที่กำลังเร่งขยายธุรกิจในภูมิภาคผ่านลาซาด้า

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์สเตรทไทมส์ รายงานว่า ช่องรายการสั่งซื้อของอเมซอน ระบุว่า ไม่สามารถจัดส่งสินค้าตามบริการไพรม์ นาวได้ในวันที่ 27-28 ก.ค. หลังจากที่อเมซอนเปิดตัวบริการได้ไม่กี่ชั่วโมง

เฟดรอท่าไม่เร่งคุมเข้มนโยบาย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยมติหลังการประชุมเมื่อวันที่ 25-26 ก.ค. โดยคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 1-1.25% และยังคงสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังเฟดแสดงความวิตกก่อนหน้านี้เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังขยายตัวไม่ถึงเป้าหมาย 2%

สัญญาณดังกล่าวของเฟดส่งผลให้ค่าเงินของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกในเอเชียแข็งค่าขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค. นำโดยค่าเงินวอนเกาหลีใต้ที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน อยู่ที่ 1,112.8 วอน/ดอลลาร์สหรัฐ หรือสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2016 รวมถึงหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี

สัมพันธ์สหรัฐ-รัสเซียร้าวฉาน

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียกำลังตึงเครียดยิ่งขึ้น หลังวุฒิสภาสหรัฐผ่านมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ด้วยคะแนนเสียง 98-2 ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้รัสเซียประกาศใช้มาตรการตอบโต้ โดยกระทรวงต่างประเทศรัสเซียสั่งให้สหรัฐลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตภายในวันที่ 1 ก.ย.นี้ รวมถึงยึดพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของสถานทูตและอาคารบางส่วนบริเวณชานเมืองกรุงมอสโก 

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ถือเป็นการสกัดความต้องการกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับรัสเซียของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งยังได้รับเสียงต่อต้านจากนานาชาติ โดยเฉพาะบรรดาประเทศยุโรป เนื่องจากการคว่ำบาตรดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัทในยุโรปที่ทำการค้ากับรัสเซีย รวมไปถึงโครงการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ยุโรปพึ่งพารัสเซีย

“แกร็บ” ลุยเปิดบริการเต็มรูปแบบในเมียนมา

แกร็บ บริษัทไรด์-แชริ่งรายใหญ่จากสิงคโปร์ เปิดเผยว่า จะเปิดบริการเต็มรูปแบบในเมียนมา หลังประสบความสำเร็จช่วงทดลองให้บริการดังกล่าวเมื่อเดือน มี.ค. นับเป็นประเทศที่ 7 ที่แกร็บเข้าไปทำธุรกิจ

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของแกร็บเกิดขึ้นหลังบริษัทระดมทุนล่าสุดได้ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.34 หมื่นล้านบาท) นำโดยการเพิ่มทุนจากซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ในญี่ปุ่น และตีตี้ ชูซิ่ง บริษัทไรด์-แชริ่งเบอร์ 1 ในจีน ถือเป็นการระดมทุนได้สูงที่สุดเท่าที่บริษัทในอาเซียนเคยทำได้