สถานการณ์โลก

ก่อการร้ายโจมตีสเปนเสียชีวิต 14 ศพ

กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างตัวอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุขับรถพุ่งชนคนในถนน ลารัมบลา ย่านท่องเที่ยวในเมืองบาร์เซโลนา ของสเปน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 100 คน นับเป็นเหตุโจมตีสเปนครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ระเบิดรถไฟปี 2004 นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุแบบเดียวกันในเมืองคัมบริลส์ แต่รถพลิกคว่ำและตำรวจได้วิสามัญผู้ต้องสงสัย 5 คน ทั้งนี้ ตำรวจได้เปิดเผยรายชื่อผู้ต้องสงสัย 4 คนออกมาแล้ว โดย 3 รายเสียชีวิต ส่วนอีกรายคาดว่ายังหลบหนีไปได้

ม็อบผิวขาวสุดโต่งจุดชนวนสหรัฐแตกแยกครั้งใหญ่

กลุ่มผู้สนับสนุนชาตินิยมผิวขาวสหรัฐ ซึ่งรวมตัวกันเพื่อต่อต้านการรื้อรูปปั้นของนายพลที่สนับสนุนการค้าทาสในอดีต ได้ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่เห็นด้วยในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนมีการขับรถพุ่งชนฝ่ายตรงข้าม จนมีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 19 คน กลายเป็นประเด็นใหญ่เพราะเป็นการลุกฮือของฝ่ายสุดโต่งครั้งใหญ่ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังกล่าวโจมตีทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ตำหนิฝ่ายผิวขาวที่เป็นฐานเสียงตัวเองเป็นพิเศษ ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นวงกว้าง

ทรัมป์ไล่คนสนิท-ปลดสภาที่ปรึกษาธุรกิจ

ความไม่พอใจจากกรณีชาร์ล็อตส์วิลล์ ส่งผลให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทใหญ่หลายคนทยอยตบเท้าลาออกจากสภาที่ปรึกษาธุรกิจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จนทรัมป์ต้องประกาศยุบสภาที่ปรึกษาธุรกิจ 2 แห่ง คือ สภาผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ และสภากลยุทธ์และนโยบายลงความระส่ำยังลามไปถึงทำเนียบขาว เมื่อทรัมป์สั่งปลด สตีเฟน แบนนอน พ้นจากหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีแนวคิดชาตินิยมขวาจัด และมีความเห็นที่ขัดแย้งกับหลายคนในทีม ซึ่งเป็นที่คาดว่าอาจช่วยลดความแข็งกร้าวในนโยบายเศรษฐกิจลงได้

เอเชียจับตา “นาฟต้า” หวั่นบรรทัดฐานใหม่การค้าสหรัฐ

นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในเอเชียต่างต้องจับตาการเจรจารอบใหม่ของความตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสหรัฐในการรื้อฟื้นเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับทั่วโลกหลังจากนี้ โดยเฉพาะในแถบเอเชียที่ส่วนใหญ่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ ขณะที่ฝ่ายสหรัฐระบุก่อนหน้านี้ว่า การรื้อฟื้นนาฟต้ามีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าและบรรจุประเด็นใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล และจะไม่ใช่เพียงการแก้ไขขนาดย่อมเพียงบางมาตราเท่านั้น

น้ำท่วมใหญ่กระทบเอเชียใต้ 16 ล้าน

คนฤดูมรสุมในปีนี้ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในอินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 343 คน และกระทบต่อประชาชน 16 ล้านคน นับตั้งแต่เดือน ก.ค. ซึ่งหน่วยงานบรรเทาทุกข์คาดว่าผู้เสียชีวิตจะพุ่งถึง 500 คน เนื่องจากสถานการณ์ในหลายพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย อีกทั้งยังขาดแคลนอาหารและน้ำ และเสี่ยงต่อโรคระบาดสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (ไอเอฟอาร์ซี) ระบุด้วยว่า มีพื้นที่กว่า 1 ใน 3 ของบังกลาเทศยังจมอยู่ใต้บาดาล และพื้นที่อีก 25 เขตจาก 75 เขตของเนปาลยังมีน้ำท่วมสูงหรือเผชิญดินโคลนถล่ม ขณะที่อินเดียมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ประชาชนกว่า 11 ล้านคนในรัฐทางเหนือและทางตะวันออกได้รับกระทบอย่างหนักในสัปดาห์เดียวกันนี้ยังเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่และดินถล่มในเซียร์ราลีโอน ทวีปแอฟริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 400 คน และสูญหายอีก 600 คน

โลกโล่งอกเกาหลีเหนือสั่งชะลอแผนถล่มเกาะกวม

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานว่า ประธานาธิบดี คิมจองอึนมีคำสั่งให้ชะลอแผนยิงขีปนาวุธถล่มใกล้เกาะกวมออกไปก่อน เพื่อรอดูท่าทีของสหรัฐ ภายหลังจากที่ประกาศกร้าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนสร้างความหวั่นวิตกไปทั่วโลก เมื่อสหรัฐขู่จะใช้กำลังตอบโต้เช่นกัน ด้านประธานาธิบดี มุนแจอิน ของเกาหลีใต้ เตือนว่า หากเกาหลีเหนือพัฒนาเทคโนโลยีการติดหัวรบนิวเคลียร์บนขีปนาวุธข้ามทวีปสำเร็จ จะถือว่าเป็นการล้ำเส้น และย้ำว่าสหรัฐไม่สามารถใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือได้ หากเกาหลีใต้ไม่ยินยอม