สถานการณ์โลก

มะกันสะท้านสองโสมคืนดี

ความพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเป็นอุปสรรคต่อสหรัฐในการใช้นโยบายกดดันให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์ หลังรัฐบาลเกาหลีเหนือบรรลุข้อตกลงกับเกาหลีใต้ ในการส่งนักกีฬาร่วมเดินสวนสนามกับนักกีฬาเกาหลีใต้ ภายใต้ “ธงเดียวกัน” ในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวช่วงเดือน ก.พ.ในเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยท่าทีของเกาหลีเหนือเสี่ยงกระทบกับความเป็นพันธมิตรของเกาหลีใต้และสหรัฐในอนาคต

สื่อโซเชียลปรับแผนใหญ่กระทบธุรกิจโลก

“เฟซบุ๊ก” ประกาศลดการมองเห็นของเพจธุรกิจและสื่อในหน้านิวส์ฟีดเพื่อเพิ่มทราฟฟิกในกลุ่มเพื่อนและคนในครอบครัวให้มากขึ้นแทน นับเป็นการปรับแผนครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะกระทบธุรกิจทั่วโลก ขณะที่ “ยูทูบ” ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การหารายได้จากการทำคอนเทนต์ตามมา โดยกำหนดให้แต่ละแชนแนลต้องมีผู้ลงทะเบียนอย่างน้อย 1,000 คน และมีการเข้าชมวิดีโอไม่ต่ำกว่า 4,000 ชม.ในปีที่ผ่านมา เพื่อหวังปรับภาพลักษณ์จากปัญหาคอนเทนต์จนบริษัทหลายแห่งถอนโฆษณาออก 

เศรษฐกิจจีนฟื้นรอบ 7 ปี

รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจในปี 2017 ที่ผ่านมาเติบโตได้ 6.9% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่เศรษฐกิจจีนเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 โดยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากการส่งออกและการบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ 6.8% ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีปรับตัวดีขึ้นจากในปี 2016 ที่ขยายตัวได้เพียง 6.7% หรือต่ำที่สุดในรอบ 26 ปี แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแรงลงเล็กน้อยในปีนี้ที่ 6.6-6.7% จากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากการคุมการก่อหนี้ และควบคุมมลพิษในภาคอุตสาหกรรม 

แอปเปิ้ลเล็งขนเงินกลับบ้าน

แอปเปิ้ล อิงค์ เปิดเผยว่า มีแผนจะลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐภายใต้วงเงิน 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11 ล้านล้านบาท) ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ โดยหนึ่งในนั้นคือการตั้งแคมปัสใหม่ในสหรัฐ มูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 9.6 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนปีนี้ 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ พร้อมจ้างงานเพิ่ม 2 หมื่นอัตรานอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังเตรียมยกระดับกองทุนเพื่อการผลิตขั้นสูง เพื่อสนับสนุนบรรดาซัพพลายเออร์ในสหรัฐ ในวงเงินระหว่าง 1,000-5,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3 หมื่น-1.6 แสนล้านบาท)

ทั่วโลกคุมเข้มเงินดิจิทัล

สกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์นี้ นำโดยบิตคอยน์ซึ่งราคาร่วงลงไปถึง 50% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือน ธ.ค.ไปอยู่ที่ 9,516 ดอลลาร์สหรัฐ/บิตคอยน์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. เมื่อหลายประเทศเริ่มเตรียมคุมเข้มเงินดิจิทัลมากขึ้น โดยธนาคารกลางจีนมีคำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินให้บริการธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลทุกชนิด ขณะที่รัฐบาลได้สั่งระงับการดำเนินการขุดบิตคอยน์ หลังการสั่งปิดตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลและห้ามออกการเสนอขายเหรียญดิจิทัลครั้งแรก (ไอซีโอ)ด้านเกาหลีใต้กำลังพิจารณาที่จะคุมเงินดิจิทัลทั้งหมด ขณะที่สหรัฐเตรียมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือความเสี่ยงจากเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับรัฐมนตรีของฝรั่งเศสและของเยอรมนีเตรียมร่างข้อเสนอร่วมเรียกร้องมาตรการคุมเข้มบิตคอยน์เพื่อเสนอต่อที่ประชุมของรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ จี20 ในเดือน มี.ค. 

ค่ายรถญี่ปุ่นระงับส่งออกไปเวียดนาม

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ ได้ระงับการส่งออกรถยนต์สำหรับจำหน่ายในเวียดนาม ไปยังเวียดนามตั้งแต่ต้นปี 2018 นี้ ภายหลังเวียดนามเริ่มใช้กฎหมายมาตรา 116 ที่กำหนดให้รถยนต์นำเข้าต้องผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการปล่อยไอเสียและระบบความปลอดภัยในทุกรอบของการนำเข้า ส่งผลให้ใช้เวลาในการตรวจสอบสินค้าในแต่ละครั้งมากถึง 2 เดือน และยังมีค่าใช้จ่ายสูง โดยหลายฝ่ายกล่าวหาว่าเป็นการปกป้องทางการค้าอย่างหนึ่งของเวียดนาม