"Super Tuesday"ชี้ชะตาผู้แทนเดโมแครต ชิงทำเนียบขาวจากทรัมป์

โดย .. ชยพล พลวัฒน์ ข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2020 หรือที่เรียกว่า "Super Tuesday" เป็นวันสำคัญของการเมืองในสหรัฐ เนื่องจากเป็นวันเลือกขั้นต้นครั้งใหญ่ของพรรคเดโมแครตเพื่อหาตัวแทนไปชิงตำแหน่งในทำเนียบขาวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ทรัมป์จะลงสมัครในนามรีพับลิกกันในสมัยสอง ดังนั้นตอนนี้ฝั่งเดโมแครตกำลังวุ่นอยู่กับการเฟ้นหาตัวผู้แทนที่่แข็งพอจะต่อกรกับทรัมป์ได้

ซูเปอร์ทิวส์เดย์สำคัญอย่างไร

การเลือกตั้งไพรมารี่ของแดโมแครตที่กำลังจะมีขึ้นในวันอังคารนี้ เป็นการลงคะแนนใหญ่ในเขตเลือกตั้ง 14 รัฐทั่วประเทศคือ อลาบามา, อาคันซอร์, แคลิฟอร์เนีย, โคโลลาโด, เมน, แมสซาชูเซตต์, มิเนโซต้า, นอร์ท แคโรไลนา, โอกลาโฮมา, เทนเนสซี, เท็กซัส, ยูทาห์, เวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย รวมทั้งในเขตการปกครองอเมริกันซามัวของสหรัฐ(คอคัส)

การลงคะแนนซูเปอร์ทิวส์เดย์ เป็นลักษณะไพรมารี่ ที่ครอบคลุมเสียงของผู้สนับสนุนเดโมแครตถึง 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ สมาชิกแดโมแครตใน 14 รัฐ จะไปโหวตในวันอังคาร เพื่อเลือกตัวแทนของพรรคให้เหลือ น้อยที่สุด ผู้สมัครที่ได้คะแนนจากซูเปอร์ ทิวส์เดย์ มากที่สุด ไม่ต่างอะไรกับการได้ติดสปริงไปสู่การเป็นผู้แทนหนึ่งเดียวของพรรคเพื่อชิงชัยทรัมป์

ใครเป็นใครในแคนดิเดตเดโมแครต

จนถึงตอนนี้ พรรคเดโมแครตมีผู้สมัครที่ยังคง"อยู่รอด"จนถึงการเลือกตั้งซูเปอร์ทิวส์เดย์ 5 คน คือ นายโจ ไบเดย (77ปี) อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ

นายไมเคิล หรือไมค์ บลูมเบิร์ก (77ปี) นักธุรกิจเจ้าพ่อสื่อและเคยเป็นอดีตผู้ว่าการนครนิวยอร์ก, นายเบอร์นี่ แซนเดอร์ (78ปี) สมาชิกสภาคองเกรสคนดังหัวซ้ายจัด ผู้เคยลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้วหลายครั้ง แต่สามารถเข้ารอบไปจนถึงแคนดิเดตพรรคในการ เลือกตั้งสองครั้งก่อนหน้า

ขณะที่ผู้ชิงที่เป็นหญิงมีสองคน คือ เอลิซาเบธ วอร์เรน (70ปี) สว.หัวก้าวหน้าคนดังจากแมสซาชูเซตต์ ซึ่งถือเป็นผู้หญิงคนแรกของพรรคที่ประกาศตัวลงชิงเป็นผู้แทนพรรคในการเลือกตั้ง 2020

และสุดท้าย ทุลซี แกบบาร์ด ผู้สมัครหญิงอายุน้อยที่สุด (38ปี) สมาชิกคองเกรสจากฮาวาย ซึ่งเธอยังถือเป็นสมาชิกสภาคองเกรสที่นับถือฮินดูคนแรกของรัฐสภาฮาวาย ตอนอายุ 21 เธอได้รับเลือกตั้งเข้าเป็นสมาชิกรัฐสภาฮาวาย นับเป็ส.ส.ของสภาฮาวายที่อายุน้อยที่สุด

"ไบเดน-บลูมเบิร์ก" สายแข็งปะ-ฉะ-ดะทรัมป์

อย่างไรก็ดี ในบรรดาผู้สมัครที่เหลืออยู่ของเดโมแครต แถบจะไม่มีใครเป็น"สายแข็ง" พอจะต่อการได้อย่างสมน้ำสมเนื้อกับประธานาธิบดีทรัมป์นอกไปจาก โจ ไบเดน และไมค์ บลูมเบิร์ก

กรณีของไบเดน ผู้ซึ่งเคยเป็นรองประธานาธิบดีคู่ใจโอบาม่า มานานถึง 2 สมัย นั้นอาจถือได้ว่าเป็น"ความหวัง"ของเดโมแครต เนื่องจากมีภาพลักษณ์ดีกว่าในบรรดาผู้สมัครที่เหลือ มีแนวคิดแบบหัวก้าวหน้า ไม่ซ้ายจัดเท่าแซนเดอร์ บุคลิกมีสไตล์คล้ายกับถอดแบบมาจากโอ บามา

ทั้งไบเดนยังผ่านช่วง"เว้นวรรค"ทางการเมืองมาแล้วในช่วงที่ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี แม้ว่าทรัมป์จะพยายามขุดเรื่องยูเครนมาสกัดดาวรุ่ง ก็ดูเหมือนจะทำอะไรไบเดนไม่ได้

บลูมเบิร์ก เจ้าพ่อสื่อและนักธุรกิจผู้รวยอันดับต้นๆของโลก ซึ่งได้ประกาศตัวอย่างแรงกล้าว่าจะโค่นล้มทรัมป์ให้ได้ เขาได้ทุ่มเงินไปเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 124 ล้านดอลลาร์ กว้านซื้อโฆษณาหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งซูเปอร์ ทิวส์เดย์ ของเดโมแครต แถมก่อนหน้านี้ยัง ถึงขั้นประกาศตัวว่าจะย้ายหุ้นธุรกิจสื่อทุกอย่าง หากเขาเอาชนะเลือกตั้งทรัมป์ได้

สองคนนี้นับว่าเป็นผู้ที่พอจะต่อกรกับทรัมป์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่จากผลการเลือกตั้งแบบ"คอคัส"ในสามมลรัฐคือนิวแฮมเชียร์ กับเนวาดา และไอโอวา กลับพบว่าคะแนนของสองคนนี้ ยังตามหลังแซนเดอร์์อยู่พอสมควร เนื่องจากภาพของนโยบายของทั้งสองยังคงไม่ชัดเจน มากนักหากเทียบกับแซนเดอร์

เลื่อยขา "แซนเดอร์" หวั่นโกยคะแนนซูเปอร์ ทิวส์เดย์

เบอร์นี แซนเดอร์ นับว่าเป็นผู้สมัครที่มีนโยบายถูกใจแฟนคลับฐานเสียงเดโมแครตที่่สุด จากแนวคิดแบบซ้ายจัดเช่น เสนอแนวคิดรีดภาษีคนรวย รวมถึงบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เสนอระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า สนับสนุนธุรกิจสีเขียว ฯลฯ แม้นโยบายจะโดนใจคน แต่ในแง่ความเป็นจริง หลายเรื่องคงเป็นไปได้ยาก แถมแซนเดอร์มีลักษณะไม้แก้ดัดยาก ไม่ค่อยประนีประนอม

หากเทียบกับการลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐครั้งก่อนๆของแซนเดอร์ นโยบายเหล่านี้แถบไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ แถมช่วยให้แซนเดอร์โกยคะแนนในการหยั่งเสียงซูเปอร์ ทิวส์เดย์ จนสามารถพาเขาเข้ารอบเป็นตัวแทนพรรคได้ในทุกครั้ง

เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ได้คะแนนจากผู้แทนพรรค (delegates)อยู่แล้ว 60 เสียง และคาดว่าจะมีคะแนนนำอยู่ในสองรัฐใหญ่ที่จะมีการเลือกตั้งวันซูเปอร์ ทิวส์เดย์ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย และเท็กซัส ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่มีผู้แทนของพรรคเดโมแครต หรือ party delegates จำนวนมากที่สุด

ทว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดี2020ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เพราะมีคู่ต่อสู้จากฝั่งตรงข้ามคือ โดนัลด์ ทรัมป์ หากว่าเดโมแครตปล่อยให้แซนเดอร์ขึ้นมาสู้กับทรัมป์ ดูเหมือนจะไปไม่รอดเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้มีผู้ท้าชิงเดโมแครตหลายที่ประกาศถอนตัวจากการลงชิงชัย แล้วหันไปสนับสนุนนายโจ ไบเดน แทนเบอร์นี แซนเดอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าแซนเดอร์ดูจะไม่ใช้ผู้แทนของพรรคที่เหมาะสมในการต่อกรกับทรัมป์ ด้วยทั้งอายุมากแล้ว รวมถึงนโยบายแบบซ้ายจัด ยิ่งจะพา ให้เดโมแครตแพ้เลือกตั้งกับทรัมป์เอาง่ายๆ

มีอดีตผู้สมัครแดโมแครตแล้วถึง 5 คนที่หันไปให้การสนับสนุนโจ ไบเดน หนึ่งในนั้นคือ พีท บูทิเจต นักการเมืองรุ่นใหม่มาแรงของเดโมแครตที่โปรไฟล์ไม่ธรรมดา แต่น่าเสียดายที่เขาเพิ่งประกาศถอนตัวไป แล้วหันไปกล่าวหนุนโจ ไบเดนแทน

แม้คะแนนของไบเดนจะมีคะแนน delegates เป็นรองแซนเดอร์ที่ 54 เสียง แต่เขาก็เพิ่งได้ชัยชนะอย่างถล่มทลายจากรัฐเซาท์ แคโรไลนา ประกอบกับเสียงสนับสนุนจากอดีตผู้สมัคร หลายฝ่ายจีงหวังว่า "Joementum" ครั้งนี้อาจทำให้ไบเดนติดสปริง เอาชนะแซนเดอร์เพื่อเป็นตัวแทนพรรคได้ในที่สุด

เราจะทราบผลเมื่อใด

การโหวตจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าของเวลามาตรฐานฝั่งตะวันออก ก่อนแต่ละเขตลงคะแนนจะเริ่มปิดหีบเวลา 17.00 น. จนถึง 18.00น. จากนั้นผลคะแนนจะเริ่มไหล คาดว่าเราจะพอเห็นภาพของผู้ชนะในซูเปอร์ ทิวส์เดย์อย่างชัดเจนในช่วงคืนวันอังคาร ซึ่งตรงกับช่วงกลางวัน ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่นในบ้านเรา โดยรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีจำนวนdelegatesมากที่สุด จะเป็นรัฐสุดท้ายที่ประกาศผลคะแนน

ทั้งนี้ หากซูเปอร์ ทิวส์เดย์ ไม่มีผู้ชนะขาดลอย การแข่งขันภายในของเดโมแครตจะลากยาวและเหน็ดเหนื่อยไปจนถึงวันที่ 6 มิ.ย. ซึ่งผู้สมัครจะงัดทุกกลยุทธ์ในการโกยเสียงสนับสนุนจากผู้สมัครคนอื่นๆ และรัฐที่เหลือซึ่งยังไม่ได้ลงคะแนน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นตัวแทน พรรคไปชิงชัยกับทรัมป์