posttoday

เมื่อ 'แจ็ค หม่า' ไม่ใช่ไอดอลของชาวจีนอีกต่อไป

11 มกราคม 2564

ชาวจีนหันมาต่อต้านแจ็ค หม่า มองเป็นนายทุนโลภมาก สนับสนุนพนักงานทำงานหนัก

เว็บไซต์ What's on Weibo ของจีนเผยว่าขณะนี้เจ้าพ่อด้านเทคโนโลยีอย่างแจ็ค หม่า กำลังถูกพูดถึงอย่างหนักบนโซเชียลมีเดียของชาวจีนหลังจากที่เขาหายเงียบไปนานหลายสัปดาห์แล้ว ขณะที่อาลีบาบา (Alibaba) กำลังเผชิญกับการสอบสวนเกี่ยวกับการผูกขาดตลาด

โดยในเดือนนี้ข่าวการเงียบหายไปของแจ็ค หม่ายังถูกพูดถึงโดยสื่อต่างประเทศจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นรอยเตอร์ส ซีเอ็นเอ็น และซีเอ็นบีซี เป็นต้น

แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก เจ้าพ่อด้านเทคโนโลยีซึ่งโด่งดังจากการเป็นเจ้าของบริษัทอาลีบาบา เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนเนื่องจากเขาเกิดในครอบครัวยากจน แต่มีความมานะขวนขวายจนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้

หม่าสนใจภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เขามักจะปั่นจักรยานไปที่โรงแรมเพื่อพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวเพื่อแลกกับการได้เรียนภาษาอังกฤษ

ก่อนที่เขาจะเดินทางไปสหรัฐเพื่อเป็นล่ามในปี 1995 และได้รู้จักับอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเขาก็ได้แรงบันดาลใจในการสร้างเว็บไซต์เชิงพาณิชย์ของตัวเองในประเทศจีนซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อ "China Pages" สำหรับนักธุรกิจชาวจีน

แม้ว่าจะล้มเหลว แต่หม่าก่อตั้งอาลีบาบาขึ้นในปี 1999 จนกระทั่งกลายมาเป็นอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในปัจจุบัน

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับการยอมรับและมีอำนาจมากที่สุดของจีน ร้านหนังสือจำนวนมากถึงกับต้องมีหมวดหมู่หนังสือของแจ็ค หม่าวางขายในฐานะเจ้าสัวทางธุรกิจคนที่ร่ำรวยที่สุดของจีนและยังเป็นผู้มีอิทธิพลที่สร้างแรงบันดาลใจ

ระยะหลังมานี้หม่าเป็นหนึ่งในคนดังของจีนที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นคำพูด มีม วิดีโอ หรือเรื่องราวของเขาที่กลายเป็นไวรัล

โดยหม่ามีผู้ติดตามกว่า 26.4 ล้านคนในเวยปั๋ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ มาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมแล้ว ท่ามกลาความเป็นห่วงจากแฟนคลับจำนวนมากที่เข้าไปถามไถ่ไม่ขาดสายว่าหม่าหายไปไหน และเกิดอะไรขึ้นกับเขา

อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนอีกฝั่งที่โกรธแค้นแจ็ค หม่า รวมถึงต่อว่าที่บริษัทของเขาใช้งานพนักงานแบบ "996" (การทำงานตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 21.00 น. เป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์)

ประจวบกับเหตุการณ์ที่มีพนักงานของบริษัทพินตัวตัว (Pinduoduo) เสียชีวิตจากการทำงานรูปแบบนี้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอีกครั้งเกี่ยวกับการที่บริษัทเทคโนโลยีของจีนมักจะใช้งานพนักงานหนักเกินไป

นอกจากนี้ยังมีการรื้อฟื้นคำพูดของหม่าที่เคยกล่าวไว้ในปี 2019 โดยเรียกวันที่ทำงานในรูปแบบ 996 หรือการทำงานวันละ 12 ชั่วโมงว่าเป็น "พรที่ยิ่งใหญ่"

รวมทั้งในปี 2019 หม่ายังเคยโพสต์ลงบนเวยปั๋วว่า "ถ้าเราเจอสิ่งที่ชอบ 996 ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าเราไม่ชอบงานนั้น ทุกๆ นาทีก็ช่างทรมาน"

หม่ายังกล่าวว่า "การทำงานแบบ 996 นั้นไม่ใช่การทำงานล่วงเวลา ทุกคนมีสิทธิเลือกชีวิตของตัวเอง แต่คนที่ทำงานน้อยกว่าจะไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสความสุขและผลตอบแทนจากการทำงานหนัก"

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการสนับสนุนการทำงานล่วงเวลาของหม่านั้นไม่เป็นธรรมและเป็นการใช้ประโยชน์จากพนักงาน

ด้านผู้ที่ต่อต้านการค้าแบบผูกขาดยังเรียกหม่าว่า "นายทุนโลภมาก" หรือ "นักดูดเลือด" อีกทั้งยังมีบางคนที่ผันตัวจากแฟนคลับมาเป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านหม่าด้วยเช่นกัน เนื่องจากไม่พอใจในวิธีดำเนินธุรกิจของเขา

แม้ว่าหม่าจะเคยเป็นไอดอลและแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะหันมาต่อต้านหม่าเสียแล้ว

โดย หยู เหอ บล็อกเกอร์หนุ่มชาวจีนคนหนึ่งก็มองเช่นเดียวกันว่าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่ได้ชื่นชอบแจ็ค หม่าอย่างที่คนรุ่นก่อนๆ เป็น

เหตุผลหนึ่งคือวิสัยทัศน์ของหม่าในการทำงานหนักและยกย่องวัฒนธรรมการทำงานแบบ 996 รวมถึงความคิดที่ว่าทุกคนจะสำเร็จได้หากพยายามอย่างเต็มที่ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นก่อนจำนวนมากในจีน ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน

ซึ่งพวกเขามองว่าปรัชญาการทำงานของหม่าไม่ใช่การทำงานเพื่อใช้ชีวิตแต่เป็นการใช้ชีวิตเพื่อทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นแนวคิดการทำงานหนักได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้คนตายได้จริงๆ

แม้ว่าครั้งหนึ่งอาลีบาบาจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับใครหลายคน แต่กลยุทธ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปส่งผลให้แจ็ค หม่ามีศัตรูเพิ่มมากขึ้น อาทิ ผู้ประกอบรายย่อยและร้านค้าออฟไลน์อื่นๆ เป็นต้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาลีบาบาถูกตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ระงับการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าราว 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยรายงานของ Wall Street Journal อ้างว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ยุติการเสนอขายหุ้น IPO ของแอนท์ กรุ๊ป หลังจากความตึงเครียดระหว่างหม่าและรัฐบาลจีนเพิ่มสูงขึ้นมาหลายปี

ความกดดันของหม่าและอาลีบาบายิ่งเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมหลังจากที่รัฐบาลจีนตรวจสอบการผูกขาดของอาลีบาบาและแอนท์ กรุ๊ป

ขณะเดียวกันแม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แต่หลายคนก็ยังปกป้องและสนับสนุนแจ็ค หม่า โดยส่วนหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า "คุณไม่รู้รหอกว่าก่อนหน้านี้แจ็ค หม่าเป็นอย่างไร พวกคุณเด็กเกินไปที่จะรู้"

ชิงรุ่ย เขียนบนเว็บไซต์จือหู่ (Zhihu) ว่า "แจ็ค หม่าเป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ เขาเปลี่ยนจีนให้เป็นโลก คนไร้สาระหลายคนด่าว่าเขาทำลายเศรษฐกิจของจีนในขณะที่เขากำลังทำงานหรักเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ นอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วยังทำให้ค่าครองชีพของคนจีนดีขึ้นอย่างมาก"

นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ออกมาให้กำลังใจและรอคอยการกลับมาของแจ็ค หม่า

AFP PHOTO / FABRICE