อย่าทวนกระแสโลกาภิวัตน์ IMF และ WTO ออกโรงเตือน
ผู้นำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และองค์การการค้าโลก (WTO) ออกโรงเตือนถึงผลกระทบด้านลบของ "การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ต่อเศรษฐกิจโลก พร้อมแนะให้ดำเนินการอย่างชาญฉลาดเพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทาน
กรรมการผู้จัดการของ IMF กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โลกยุคโลกาภิวัตน์กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่อย่าไปให้ความสำคัญ หรือจับผิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าเลิกดำเนินการการค้าระหว่างกันเพราะนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น
ขณะที่ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) Ngozi Okonjo-Iweala กล่าวว่า องค์การการค้าโลกประเมินว่าการแบ่งขั้วเศรษฐกิจโลกออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อจัดทำสนธิสัญญาหรือข้อตกลงทางการค้าร่วมกัน จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก (GDP) ลดลงได้ราว 5% ในระยะยาว
การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศที่ลดลง หรือการเป็นผู้คุ้มครองการค้าจะทำให้สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งยากขึ้นไปอีก ลัทธิคุ้มครองการค้า การแยกตัวออกจากกัน การแบ่งส่วนตลาดที่แยกย่อยเฉพาะทางมากขึ้น เป็นสิ่งที่สร้างปัญหาและมีราคาที่ต้องจ่าย
ทั้ง Okonjo-Iweala และ Georgieva กล่าวว่าผลกระทบของการทวนกระแสของโลกาภิวัตน์และการแบ่งส่วนตลาดที่แยกย่อยเฉพาะทางมากขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างหนักที่สุดกับประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ค่า GDP หดตัวรุนแรงถึงขั้น Double-Digit หรือ -10% ขึ้นไป และยังกระทบกับตลาดเกิดใหม่
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลกยังเตือนว่าให้ลดการกระจุกตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และอย่าเลือกลงทุนการผลิตหรือจำกัดเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานไว้กับประเทศที่เป็นมิตรเท่านั้น (friend-shoring) พร้อมเสริมว่าพันธมิตรในวันนี้ อาจกลายเป็นคู่ปรับในอนาคตก็เป็นได้
การเติบโตทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศมหาอำนาจสหรัฐฯและจีนเริ่มมีการชะลอตัวมากขึ้น รวมถึงข้อมูลยังชี้ว่าในปีหน้า การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังต่ำกว่า 2.7% ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศเคยคาดการณ์ไว้
ราว 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกและประมาณครึ่งหนึ่งของสหภาพยุโรปจะเริ่มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2023 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ต่อไป แม้ว่าในปีหน้าระดับความรุนแรงจะลดลงเหลือประมาณ 6.5% Georgieva กล่าวเสริม