ประธาน COP28 ชี้ยุคของการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลหลีกเลี่ยงไม่ได้

สุลต่านอาห์เหม็ด อัล-จาเบอร์ ซึ่งบริหารบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐยูเออีด้วย ถูกนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศวิพากษ์วิจารณ์ว่าแสดงจุดยืนที่นุ่มนวลต่อเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาการปล่อยมลพิษแทนที่จะลดการใช้

นั่นอาจทำให้ประเทศต่างๆ ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไปได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเพื่อดักจับการปล่อย CO2 ที่เกิดจากการเผาไหม้

“การลดลงของเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเร็วที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับว่าเราจะลดทางเลือกคาร์บอนเป็นศูนย์ได้เร็วแค่ไหน ขณะเดียวกันก็รับประกันความมั่นคงด้านพลังงาน การเข้าถึง และความสามารถในการจัดส่งพลังงานด้วย” เขากล่าวในงานนอกรอบของการเจรจาเรื่องสภาพอากาศของสหประชาชาติ ในกรุงบอนน์

อัลเดน เมเยอร์ ผู้ช่วยอาวุโสของ Climate Think Tank E3G กล่าวว่าการยอมรับความจำเป็นในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นขั้นตอนแรกที่มีประโยชน์ แต่อัล-จาเบอร์จำเป็นต้องรับรู้ถึงจังหวะที่จะต้องเกิดขึ้น

“เขาจำเป็นต้องมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงที่ COP28 เกี่ยวกับแผนการลดการปล่อยมลพิษเหล่านั้น”

ในเดือนพฤศจิกายน ADNOC ของอาบูดาบีซึ่งเป็นหัวหน้าของ อัล-จาเบอร์ ได้ประกาศแผนการที่จะขยายกำลังการผลิตน้ำมัน 5 ล้านบาร์เรลต่อวันของบริษัทจนถึงปี 2570 จากเป้าหมายเดิมในปี 2573 เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

เมื่อเดือนที่แล้ว สมาชิกสภาคองเกรสและรัฐสภายุโรปมากกว่า 100 คนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเยน กดดันรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ปลดอัล-จาเบอร์ออกจากตำแหน่งประธาน COP โดยกล่าวว่าตำแหน่งในบริษัทน้ำมันของเขาอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้อำนวยการใหญ่ COP28 มาจิด อัล ซูไวดี ปฏิเสธคำวิจารณ์ โดยกล่าวว่าการมีซีอีโอเป็นหัวหน้า COP เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ และการย้ายออกจากกระบวนการทางการเมืองล้วน ๆ จะช่วยส่งผลดีต่อการประชุมในเดือนธันวาคม

ในงานเลี้ยงรับรองที่จัดโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในกรุงบอนน์เมื่อวันพฤหัสบดี อัล-จาเบอร์ได้ผลักดันให้มีความคืบหน้ามากขึ้นในการประชุมสภาพอากาศของสหประชาชาติ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการทดสอบแบบไม่เป็นทางการว่าการเจรจาเรื่องสภาพอากาศระหว่างประเทศจะเป็นรูปเป็นร่างอย่างไรที่ COP28 ในเดือนธันวาคม

การประชุมซึ่งเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์โดยไม่มีการตกลงในวาระสุดท้าย อาจจะส่งผลให้มีแนวทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับดูไบในการเป็นเจ้าภาพ

“ตามที่เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ยิ่งเรามีความก้าวหน้ามากขึ้นในกรุงบอนน์ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในเดือนธันวาคมก็จะยิ่งสูงขึ้น” อัล-จาเบอร์กล่าว