รัฐบาลท้องถิ่นเยอรมนีวอนแบนแผงโซล่าร์เซลล์จากจีน เหตุไม่ได้มาตรฐาน

แผงโซลาเซลล์ของยุโรปมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยในตลาดเยอรมนี ขณะที่บรรดาผู้ผลิตเริ่มร้องเรียนมากขึ้นเกี่ยวกับการนำเข้าแผงโซลาเซลล์จากจีนที่มีราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาก

หลังการประชุมกับตัวแทนจากกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในกรุงเบอร์ลิน รัฐบาลของรัฐ Saxony และ Saxony-Anhalt  ได้เผยแผน 10 ประการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในเยอรมนี

รัฐบาลท้องถิ่นทั้ง 2 แห่งเรียกร้องให้มีการยื่นประมูลสาธารณะรวมถึงเก็บภาษีนำเข้าโดยคิดจากต้นทุนแฝงเมื่อนำไปรีไซเคิลต่อ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเงื่อนไขการผลิต

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Reuters เผยว่า เอกสารของกระทรวงเศรษฐกิจชี้ว่ารัฐบาลกำลังหาแนวทางที่จะช่วยผู้ผลิตในเยอรมนีจากราคาที่กำลังตกต่ำอยู่ทั่วโลก ซึ่งอาจเป็นการช่วยเหลือผ่านการให้เงินอุดหนุน

ทางกระทรวงกล่าวว่า เดิมจีนมุ่งจัดส่งแผงโซลาเซลล์ไปยังสหรัฐฯ แต่ตอนนี้แผ่นดินใหญ่ได้เปลี่ยนแนวทางมาตีตลาดยุโรป ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตในยุโรปเกิดความกดดันในการตั้งราคาแผงโซลาร์เซลล์เป็นอย่างมาก และอาจเกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมได้

Marius Mordal Bakke นักวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของ Rystad Energy กล่าวว่าขณะนี้แผงโซลาร์เซลล์ประมาณ 40 กิกะวัตต์ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าในยุโรป ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าจะติดตั้งได้จริงในภูมิภาคนี้

ช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาของแผงโซลาร์ลดลงจาก 0.24 ยูโรต่อวัตต์มาอยู่ที่ 0.15 ยูโรต่อวัตต์จากอุปทานที่ล้นตลาดเมื่อมีการนำเข้าแผงโซลาเซลล์จากจีน ขณะที่ผู้ผลิตในยุโรปตั้งราคาไว้ที่ 0.30 ยูโร

ทั้งนี้ Gunter Erfurt ผู้บริหารระดับสูงของ Meyer Burger ผู้ผลิตโซลาเซลล์ให้ความเห็นว่า มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพกว่าภาษีการค้าเพื่อสนับสนุนบริษัทด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในยุโรป เช่น การกำหนดสัดส่วนว่าจะนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากแต่ละประเทศในอัตราส่วนเท่าไหร่บ้าง