posttoday

จับตา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไบเดนหรือทรัมป์ถอนตัวจากการลงชิงประธานาธิบดี?

05 กรกฎาคม 2567

ในปี 2024 การเมืองอเมริกันกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ เมื่อทั้งโจ ไบเดน วัย 81 ปี และโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี ต่างเป็นผู้นำในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ก็มีคำถามมากมายเกี่ยวกับความเหมาะสมของทั้งคู่

หลังการดีเบทครั้งล่าสุด ไบเดนเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสุขภาพ ขณะที่ทรัมป์กำลังเผชิญกับคดีอาญา 34 ข้อหา ทำให้หลายคนสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้สมัครคนใดคนหนึ่งต้องถอนตัวจากการแข่งขัน?

เรื่องราวนี้เหมือนละครการเมืองที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น การประกาศถอนตัวของทั้งคู่ น่าจะต้องเกิดขึ้นก่อนการประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อให้ที่ประชุมพรรคมีเวลาในการคัดเลือกผู้สมัครคนใหม่ โดยพรรครีพับลิกันจะจัดการประชุมใหญ่ที่มิลวอกีระหว่างวันที่ 15-18 กรกฎาคม ส่วนพรรคเดโมแครตจะจัดที่ชิคาโกระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม

หากไบเดนถอนตัว รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส อาจเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่เธอก็ต้องแข่งขันกับนักการเมืองคนอื่นๆ ในพรรค ส่วนฝั่งทรัมป์ แม้จะดูเหมือนว่าเขาจะมีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีโอกาสที่อาจต้องถอนตัวเช่นกัน

แต่ถ้าไบเดนหรือทรัมป์ได้รับการอนุมัติให้เป็นตัวแทนพรรคในการประชุมใหญ่ของพรรคตัวเองแล้ว แต่ต้องถอนตัวก่อนวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน กฎการสืบทอดตำแหน่งจะแตกต่างออกไป

จับตา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไบเดนหรือทรัมป์ถอนตัวจากการลงชิงประธานาธิบดี?

ถ้าไบเดนเสียชีวิตขณะดำรงตำแหน่ง (หรือถูกบังคับให้สละตำแหน่งประธานาธิบดีเนื่องจากไร้ความสามารถภายใต้รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 25) แฮร์ริสจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปทันที แต่ไม่ได้กลายเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีโดยอัตโนมัติ  ในฝั่งเดโมแครต กฎจะให้อำนาจคณะกรรมการแห่งชาติพรรคเดโมแครตในการเสนอชื่อผู้สืบทอดตำแหน่ง แต่เธอจะถือเป็นตัวเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด 

ส่วนกฎของพรรครีพับลิกันจะไม่ชัดเจนเท่า อาจมีการเรียกประชุมใหญ่ของพรรคอีกครั้ง แต่คณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกันอาจหาวิธีอื่นได้ 

แต่เรื่องราวไม่ได้จบแค่นั้น ถ้าผู้ชนะการเลือกตั้งเสียชีวิตหลังจากชนะการเลือกตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง สถานการณ์จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก ถ้าประธานาธิบดีคนใหม่ได้รับเลือกตั้งแต่เสียชีวิตก่อนการเข้ารับตำแหน่ง รองประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งอย่างถูกต้องจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป รองประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อรัฐสภาอนุมัติเนลสัน ร็อคกีเฟลเลอร์ หลังจากที่เจอรัลด์ ฟอร์ดเข้ารับตำแหน่งแทนริชาร์ด นิกสัน ซึ่งลาออกท่ามกลางเหตุอื้อฉาววอเตอร์เกต

จับตา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไบเดนหรือทรัมป์ถอนตัวจากการลงชิงประธานาธิบดี?

แต่หากผู้ชนะการเลือกตั้งเสียชีวิตระหว่างช่วงที่คณะผู้เลือกตั้งลงคะแนนเสียงและอยู่ในช่วงที่รัฐสภานับคะแนนในวันที่ 6 มกราคม 2025 แต่ยังไม่มีการประกาศผล ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร แม้แต่สำนักงานบันทึกและจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการอ้างอิงแนวทางปฏิบัติ ก็ยังไม่แน่ใจ

เรื่องนี้เผยให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในระบบการเมืองอเมริกัน และแสดงให้เห็นว่าแม้แต่กฎหมายและระเบียบที่วางไว้อย่างดีก็อาจไม่ครอบคลุมทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 นี้ เป็นหนึ่งในการเลือกตั้งที่น่าจับตามองที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา