ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาอยู่ในแดนลบ นักลงทุนยังหวั่นเศรษฐกิจถดถอย

แม้ดัชนีหุ้นจะเริ่มต้นวันอยู่ในแดนบวกจากหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้น และกลับเริ่มสูญเสียกำลังในการซื้อขายช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลหลังจากการขายหุ้นทั่วโลกที่ดิ่งลงหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ก็กลับมาคึกคักเพิ่มขึ้นอีกหลังจากการประมูลพันธบัตรของกระทรวงการคลัง

ดัชนีทั้งสามกลายเป็นสีแดง และการขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนปิด ดัชนีเทคโนโลยี S&P 500 (.SPLRCT) ปิดลดลง 1.4% และเป็นตัวฉุดที่ใหญ่ที่สุดในดัชนี

“ยังมีเรื่องต้องกังวลอีกมากในอีก 8 สัปดาห์ข้างหน้า ดังนั้นนักลงทุนจึงคาดว่าจะมีความผันผวนมากขึ้น ทำให้อาจจะมีแรงขายออกเล็กน้อยต่ออีกระยะ” Peter Tuz ประธานของ ที่ปรึกษาการลงทุน Chase ในชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนียระบุ

นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น และการคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอลงจากบริษัทยักษ์ใหญ่บางแห่งในสหรัฐฯ ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ร่วงลง 234.21 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 38,763.45 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) ร่วง 40.53 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 5,199.5 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) ลดลง 171.05 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 16,195.81 จุด

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ออกมาสูงเกินคาด และอาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง แม้ว่านักลงทุนจะกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีนก็ตาม

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดสูงขึ้น 2.77% อยู่ที่ 75.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเบรนต์เพิ่มขึ้นเป็น 78.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.42% 

สำหรับโลหะมีค่า ทองสปอตร่วงลง 0.2% สู่ระดับ 2,384.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.05% สู่ระดับ 2,387.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์