ทรัมป์ แฮร์ริส แย่งคะแนนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ด้วยนโยบายต้าน EV จีน

ผลสำรวจระบุว่าทรัมป์และคามาลา แฮร์ริส ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. โดยคาดว่าผลลัพธ์จะได้รับการตัดสินจากรัฐสมรภูมิอย่างมิชิแกน ซึ่งดีทรอยต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งทั้งคู่ได้ลงพื้นที่หาเสียงในสัปดาห์นี้

ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อ Detroit Economic Club เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งดำเนินไปเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์รถยนต์ไฟฟ้า ต่อสหภาพแรงงาน United Auto Workers ที่เป็นตัวแทนของคนงานด้านยานยนต์ ซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของเมืองดีทรอยต์ที่เขาพูดอยู่

เขาพูดพาดพิงถึงการต่อสู้ดิ้นรนทางเศรษฐกิจของดีทรอยต์ด้วยการโจมตีแฮร์ริส

“ทั้งประเทศจะเป็นเช่นนั้น คุณก็รู้ความจริง มันจะเป็นเหมือนดีทรอยต์ ทั้งประเทศของเราจะจบลงเหมือนดีทรอยต์ ถ้า [แฮร์ริส] เป็นประธานาธิบดีของคุณ” ทรัมป์กล่าว

สุนทรพจน์มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่หลายแห่งในเมืองดีทรอยต์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะกำหนดอัตราภาษีใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนสร้างรถยนต์ในเม็กซิโกและส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา

ทรัมป์ ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพิ่งกล่าวว่าเขาจะกำหนดอัตราภาษีสูงถึง 200% บอกว่าเขาสามารถกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นไปอีก

“ผมจะกำหนดอัตราภาษีใดๆ ก็ตามที่จำเป็น 100%, 200% 1,000%” ทรัมป์กล่าว เม็กซิโกส่งออกรถยนต์มากกว่า 2.5 ล้านคันไปยังสหรัฐอเมริกาในปีที่แล้ว

ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าเขาจะปิดช่องโหว่เกี่ยวกับรถยนต์จีนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสหรัฐฯ โดยเขายังกล่าวว่าเขาจะแจ้งเม็กซิโกและแคนาดาอย่างเป็นทางการ ถึงความตั้งใจของเขาที่จะเจรจาปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนืออีกครั้งเพื่อแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับยานพาหนะของจีน ขณะที่ก่อนหน้านี้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้กล่าวว่าเธอวางแผนที่จะเจรจาข้อตกลงใหม่หากได้รับเลือกเช่นกัน

เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เสนอห้ามซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำคัญของจีนในยานพาหนะที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนถนนในอเมริกา เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะขัดขวางรถยนต์และรถบรรทุกของจีนจากตลาดสหรัฐฯ อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ไบเดนยังประกาศแยกภาษีใหม่ 100% สำหรับ EV ของจีนทั้งหมด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน นอกเหนือจากภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์จีนทุกคันที่ทรัมป์กำหนด

ขณะที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ซึ่ลงพื้นที่ดีทรอยต์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตอบโต้การโจมตีจากพรรครีพับลิกันโดยกล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่าเธอตั้งใจที่จะห้ามรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

“ขอให้ชัดเจน ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังแนะนำ ฉันจะไม่บอกคุณว่าคุณต้องขับรถประเภทไหน” แฮร์ริสกล่าวในเมื่อวันศุกร์ โดยโต้แย้งว่าอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะทำร้ายอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจ คนงานสหภาพแรงงานในสภาวะวิกฤติที่แกว่งไปมานี้

ทรัมป์และรีพับลิกันต่อต้านนโยบายและสิ่งจูงใจสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีไบเดนมาเป็นเวลานาน มาตรการที่ไบเดนกล่าวว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งเสริมงานด้านการผลิตขั้นสูง ไบเดนตั้งเป้าว่ารถยนต์ใหม่ครึ่งหนึ่งจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030

แฮร์ริสสนับสนุนมาตรการของไบเดน ในปี 2019 เธอเรียกร้องให้รถยนต์โดยสารใหม่ที่ขายให้มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2035 แต่การหาเสียงรอบนี้ของเธอไม่ได้รื้อฟื้นข้อเสนอดังกล่าว

ตอนที่ไบเดนยังลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ทรัมป์ยังกล่าวอย่างเป็นเท็จว่าไบเดนจะสั่งห้ามรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เขายังใช้ข้อโจมตีนั้นเมื่อแฮร์ริสกลายเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ

เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมงานของทรัมป์ใช้เงินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ในการออกอากาศโฆษณาทางโทรทัศน์ในรัฐมิชิแกน โดยบอกกับคนงานด้านรถยนต์ว่า “คามาลา แฮร์ริสต้องการยุติรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั้งหมด” และ “การเลิกจ้างครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”

แฮร์ริส ซึ่งปราศัยต่อ United Auto Workers ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานที่สนับสนุนเธอ กล่าวว่าโรงงานรถยนต์ 6 แห่งปิดตัวลงเมื่อทรัมป์อยู่ในตำแหน่ง และกล่าวหาว่าเขาให้ “สัญญาที่ว่างเปล่า” เกี่ยวกับการสนับสนุนภาคส่วนนี้

“เราจะรับประกันว่าความก้าวหน้ารุ่นต่อไป ตั้งแต่แบตเตอรี่ขั้นสูงไปจนถึงยานพาหนะไฟฟ้า ไม่เพียงถูกประดิษฐ์ขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างขึ้นที่นี่ในอเมริกาโดยคนงานสหภาพแรงงานในอเมริกา” แฮร์ริสกล่าว