แนวโน้มการเลือกตั้ง ทำตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ราคาทองพุ่งทำสถิติใหม่อีกรอบ

คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำเหนืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของพรรครีพับลิกัน 46% ต่อ 43% ตามการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส ในขณะที่ผู้สมัครทั้งสองยังคงแย่งชิงคะแนนเสียงจากรัฐสมรภูมิที่แกว่งไปมาก่อนวันที่ 5 พ.ย.

ดัชนี S&P 500 และ Dow ปิดลดลงด้วยการซื้อขายที่ขาด ๆ หาย ๆ ซึ่งเป็นผลจากการขาดทุนในหุ้นอุตสาหกรรม วัสดุ และสาธารณูปโภค ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัทจากบริษัทต่างๆ ทั่วทั้งภาคส่วนในเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 6.71 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 42,924.89 จุด

ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) หายไป 2.78 จุด หรือ 0.05% สู่ 5,851.20 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) เพิ่มขึ้น 33.12 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 18,573.13 จุด

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน เนื่องจากผู้ค้ามองข้ามความหวังของการหยุดยิงในตะวันออกกลาง และมุ่งเน้นไปที่ความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัวมากขึ้น

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2.36% เป็น 76.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า West Texas Intermediate ของสหรัฐฯ สำหรับการส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะสิ้นสุดหลังจากวันอังคาร เพิ่มขึ้น 2.17% เป็น 72.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาทองคำยังคงพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ โดยราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 1.03% สู่ระดับ 2,747.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.8% ที่ 2,759.8 ดอลลาร์