รีพับลิกันมีแนวโน้มคุมข้างมากวุฒิสภา และได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเพิ่ม

ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นทำให้มั่นใจว่าพรรครีพับลิกัน จะสามารถช่วยทรัมป์แต่งตั้งผู้พิพากษาที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมและบุคลากรของรัฐบาลอื่นๆ หากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี หรือสามารถขัดขวางวาระส่วนใหญ่ของคามาลา แฮร์ริส หากเธอชนะ

คาดการณ์ว่า จิม จัสติส จากพรรครีพับลิกัน จะชนะที่นั่งวุฒิสภาที่ว่างในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียหลังจากปิดหีบเลือกตั้งไม่นาน โดยได้รับที่นั่งที่เคยเป็นของโจ แมนชิน สมาชิกพรรคเดโมแครตที่เปลี่ยนมาเป็นผู้สมัครอิสระ ในรัฐโอไฮโอ เบอร์นี มอเรโน จากพรรครีพับลิกัน คาดว่าจะเอาชนะเชอร์รอด บราวน์ เจ้าของตำแหน่งเดิมจากพรรคเดโมแครต ชัยชนะทั้งสองครั้งนี้ทำให้มั่นใจว่าพรรครีพับลิกันจะมีเสียงข้างมากในวุฒิสภาอย่างน้อย 51-49 เสียง โดยอาจมีการเพิ่มที่นั่งเพิ่มเติมเมื่อผลการเลือกตั้งในการแข่งขันที่แข่งขันกันสูงอื่นๆ ทยอยเข้ามา

พรรครีพับลิกันยังชนะหลายที่นั่งซึ่งอาจช่วยให้พวกเขาขยายเสียงข้างมาก 220-212 ในสภาผู้แทนราษฎร  

พวกเขาชนะเขตที่พรรคเดโมแครตครองในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งรวมถึงเมืองสแครนตัน บ้านเกิดของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และได้รับที่นั่งจากพรรคเดโมแครตในนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งพวกเขาได้วาดเขตใหม่เพื่อความได้เปรียบ

พรรคเดโมแครตต้องพลิกอย่างน้อย 6 ที่นั่งเพื่อให้ได้การควบคุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี 435 ที่นั่ง

ในรัฐเดลาแวร์ ผู้ลงคะแนนได้สร้างประวัติศาสตร์โดยเลือกซาราห์ แมคไบรด์ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาข้ามเพศคนแรก

เช่นเดียวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ผลการเลือกตั้งส่วนใหญ่มักจะมีตัวเต็งที่ได้รับชัยชนะค่อนข้างแน่นอน มีการแข่งขันในสภาผู้แทนราษฎรน้อยกว่า 40 ที่นั่งที่ถือว่ามีการแข่งขันจริงๆ

พรรครีพับลิกันมีโอกาสที่จะขยายเสียงข้างมากในวุฒิสภาเพิ่มเติมหากพวกเขาชนะในมอนทานา และชนะในรัฐมิดเวสต์ที่มีการแข่งขันสูงหลายรัฐ แต่พวกเขาไม่น่าจะได้เสียงข้างมาก 60 เสียงที่จำเป็นในการผ่านกฎหมายส่วนใหญ่ในสภา

วุฒิสภา อาจจะมีผู้หญิงผิวดำสองคนได้ตำแหน่งพร้อมกันเป็นครั้งแรก เมื่อลิซา บลันท์ โรเชสเตอร์ จากพรรคเดโมแครตชนะในเดลาแวร์ และสื่อหลายแห่งคาดการณ์ว่าแองเจลา อัลโซบรุกส์ จากพรรคเดโมแครตจะชนะในแมริแลนด์

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรยังไม่มีข้อสรุป นักวิเคราะห์กล่าวว่าพรรคเดโมแครต อาจมีโอกาสได้ที่นั่งเพียงพอที่จะชนะการควบคุมสภา แต่มีสัญญาณของการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย  เหมือนปี 2018 หรือ 2010 ที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจอย่างเด็ดขาด

ด้วยที่นั่งที่ปลอดภัยอย่างน้อย 200 ที่นั่งสำหรับแต่ละพรรค ฝ่ายที่ชนะจะมีเสียงข้างมากด้วยเสียงไม่เด็ดขาด ซึ่งอาจทำให้การปกครองยากลำบาก ที่เห็นได้ชัดในช่วงสองปีที่ผ่านมา เมื่อความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกันนำไปสู่การลงคะแนนที่ไม่เป็นปึกแผ่นและความวุ่นวายในการแย่งเป็นผู้นำ

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์สุดท้ายอาจไม่สามารถสรุปได้เป็นเวลาอีกหลายวัน เนื่องจากแคลิฟอร์เนียมักใช้เวลาหลายวันในการนับคะแนน