ทรัมป์ชะลอแผนขึ้นภาษีศุลกากร พร้อมปรับยุทธศาสตร์การค้าใหม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกที่จะยังไม่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง แต่สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลตรวจสอบประเด็นการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ พร้อมศึกษาแนวทางแก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและการแทรกแซงค่าเงินของประเทศคู่ค้า
แม้ในระหว่างหาเสียง ทรัมป์เคยประกาศนโยบายเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูง โดยจะเรียกเก็บ 10-20% สำหรับสินค้านำเข้าทั่วไป และสูงถึง 60% สำหรับสินค้าจากจีน เพื่อลดการขาดดุลการค้าที่มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี นอกจากนี้ยังวางแผนเก็บภาษี 25% จากสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หากทั้งสองประเทศไม่สามารถควบคุมปัญหายาเสพติดและผู้อพยพผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในคำปราศรัยครั้งแรก ทรัมป์เพียงกล่าวว่าสหรัฐฯ จะมีรายได้มหาศาลจากภาษีการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการนี้จะช่วยดึงธุรกิจกลับสู่สหรัฐฯ โดยจะจัดตั้งกรมสรรพากรภายนอกเพื่อดูแลการจัดเก็บภาษีดังกล่าว
ทรัมป์ยังสั่งให้ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้า "เฟส 1" ที่ทำไว้กับจีนในปี 2020 ซึ่งกำหนดให้จีนต้องเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ อีก 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในสองปี แต่จีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19
ตลาดการเงินตอบรับในเชิงบวกต่อท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นของทรัมป์ โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจแสดงความพอใจที่รัฐบาลใหม่เลือกศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนดำเนินมาตรการทางภาษี