posttoday

วิเคราะห์บทบาท Elon Musk ในรัฐบาล Trump แค่ที่ปรึกษา หรือรัฐบาลเงา?

22 มกราคม 2568

Elon Musk นำทีม DOGE ภายใต้รัฐบาล Trump ท่ามกลางข้อกังขาถึงบทบาทที่ชัดเจนว่าเข้ามาในฐานะที่ปรึกษาประธานาธิบดี หวังชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือหวังสวมรอยในฐานะรัฐบาลเงา

KEY

POINTS

  • Elon Musk กำลังมีบทบาทสำคัญในหน่วยงาน DOGE ของ Trump แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามหาเศรษฐีรายนี้เข้ามาในตำแหน่งใด?
  • สถานะการจ้างงาน Elon Musk ภายใต้รัฐบาล Trump อาจเกิดข้อจำกัดด้านผลประโยชน์ทับซ้อน กฎหมายจริยธรรม และการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
  • Musk จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทางของ DOGE ว่าจะรอดหรือร่วง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงการธุรกิจ การเมือง และกฎหมายระดับมหภาค

 

Elon Musk มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลแห่งโลกเทคโนโลยี ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำอย่าง Tesla และ SpaceX กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม นั่นคือการกุมบังเหียน "Department of Government Efficiency" หรือ DOGE หน่วยงานพิเศษภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump 

อย่างไรก็ตาม บทบาทของ Musk ในครั้งนี้กลับมาพร้อมคำถามมากมายที่ยังไร้คำตอบ มหาเศรษฐีแห่ง Tesla เข้ามาทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐโดยเต็มตัวหรือไม่? 

ที่ผ่านมา Elon Musk มีอิทธิพลอย่างมากต่อประธานาธิบดี Donald Trump และทั้งคู่แทบจะเป็นเงาตามตัวกันไปทุกที่ แต่ในขณะที่ Trump กำลังเริ่มต้นวาระสอง และ DOGE เริ่มมีอำนาจบริหารอย่างแท้จริงในรัฐบาลนี้ หาก Musk ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยเต็มตัว อาจนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมาย ซึ่งบางคดีความได้เริ่มฟ้องร้องกันไปแล้ว

วิเคราะห์บทบาท Elon Musk ในรัฐบาล Trump แค่ที่ปรึกษา หรือรัฐบาลเงา?

  • DOGE หน่วยงานพิเศษที่ไร้การตรวจสอบ

"Department of Government Efficiency" หรือ DOGE หน่วยงานพิเศษภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐอย่างเป็นทางการ ดังนั้น Musk จึงไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหรือรับรองใด ๆ จากทางรัฐ

การดำเนินงานของ DOGE จะรายงานตรงต่อหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผ่านผู้บริหาร (แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Musk จะรับบทบาทนั้นหรือไม่) ทั้งนี้ DOGE จะเป็นการปรับโครงสร้างและเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเดิมที่มีอยู่แล้วอย่าง "United States Digital Service" ซึ่งก่อตั้งโดยประธานาธิบดี Barack Obama ในปี 2014

  • Musk เดินหน้าสู่ West Wing ทวีคูณอำนาจคุมฝ่ายบริหาร

เดิมทีมีคาดการณ์ว่า สถานที่ทำงานของ Musk คืออาคารสำนักงานบริหาร Eisenhower ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทำเนียบขาว ไม่ใช่ที่ West Wing ซึ่งเป็นที่ทำการของประธานาธิบดี 

ทว่า รายงานล่าสุดจาก New York Times กลับเผยว่า Musk อาจย้ายเข้าไปทำงานใน West Wing อาคารเดียวกับ Trump ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงฝ่ายบริหารนั้นง่ายยิ่งกว่าการปลอกกล้วยเข้าปาก และแน่นอนว่าอิทธิพลของเจ้าพ่อไอทีรายนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

วิเคราะห์บทบาท Elon Musk ในรัฐบาล Trump แค่ที่ปรึกษา หรือรัฐบาลเงา?

  • สถานะการจ้างงานของ Musk ผลประโยชน์ทับซ้อนภายใต้รัฐบาล Trump 

สถานะการจ้างงานของ Musk จะเป็นตัวกำหนดหลายข้อจำกัดที่เขาต้องเผชิญ หาก Musk เป็น "พนักงานพิเศษของรัฐบาล" เขาจะต้องเผชิญกับกฎระเบียบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งอาจกระทบต่อธุรกิจหลายแห่งของเขาที่มีสัญญามูลค่ามหาศาลกับรัฐบาล 

นอกจากนี้ Musk ยังต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน เว้นแต่จะหงายการ์ดเลือกไม่ขอรับเงินเดือน (มหาเศรษฐีรายนี้เคยเปรยไว้ว่าอาจทำเช่นนั้น)

ยิ่งไปกว่านั้น Musk จะถูกผูกมัดด้วยกฎหมายด้านจริยธรรมของรัฐบาลกลาง ซึ่งห้ามมิให้พนักงานของรัฐมีส่วนร่วมในเรื่องที่ตนเอง ครอบครัว หรือองค์กร มีผลประโยชน์ทางการเงิน แม้ว่า Trump จะมีอำนาจในการยกเว้นกฎเหล่านี้ให้ Musk เป็นกรณีพิเศษก็ตาม

  • พลเรือน หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ ทางเลือกที่ต้องตัดสินใจ?

การเป็นเพียงพลเรือนที่ทำงานสนองนโยบายภาครัฐ ฟังดูอาจไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของ Musk สักเท่าไหร่ เพราะเขาต้องเผชิญกับ "Federal Advisory Committee Act" ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่กำหนดให้คณะกรรมการที่ปรึกษาต้องเปิดการประชุมคณะกรรมการต่อสาธารณะ รวมถึงเปิดเผยเอกสารและข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง 

หากมองมุมกลับ เมื่อ Musk ดำรงตำแหน่งในฐานะพนักงานพิเศษของรัฐบาล หน่วยงาน DOGE จะมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยสามารถเลือกแจงผลดำเนินงานบางส่วนต่อสาธารณะชน ขณะที่บางส่วนก็แอบอุ๊บอิ๊บไว้ใต้พรมได้ ซึ่งแนวทางนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ Musk ต้องการมากกว่า

ทั้งนี้  Elon Musk เคยประกาศว่า DOGE จะทำงานด้วย "ความโปร่งใสอย่างเต็มที่" แต่จนถึงปัจจุบัน การดำเนินงานส่วนใหญ่ของ DOGE ยังคงถูกปิดเป็นความลับ ยกเว้นการเปิดเผยแบบอ้อมแอ้มบน X (เดิม Twitter) บ้างเป็นครั้งคราว

วิเคราะห์บทบาท Elon Musk ในรัฐบาล Trump แค่ที่ปรึกษา หรือรัฐบาลเงา?

  • บททดสอบความโปร่งใสของ DOGE

ไม่กี่นาทีหลังจาก Trump สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง คดีความแรกก็ถูกยื่นฟ้องโดย National Security Counselors องค์กรกฎหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยกล่าวหาว่า DOGE ละเมิดกฎหมายความโปร่งใสของรัฐบาลกลางที่เกี่ยวข้องกับ Federal Advisory Committee Act

คดีดังกล่าวระบุว่า DOGE ล้มเหลวในการเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมการประชุม เก็บบันทึกการประชุม ยื่นกฎบัตรต่อสภาคองเกรส และอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะที่ Musk และทีมงานเริ่มมองหาแนวทางลดงบประมาณหลังการเลือกตั้ง โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านข้อความเข้ารหัสบนแอป Signal

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นเพียง 1 ใน 4 คดีที่ยื่นฟ้อง DOGE ภายในวันเดียวกัน โดยเป้าหมายหลักของการยื่นฟ้องคือเพื่อปิดหน่วยงานดังกล่าวจนกว่าจะดำเนินงานด้วยความโปร่งใสอย่างแท้จริง

 

  • อนาคตของ DOGE และ Musk ปริศนาที่ยังไร้คำตอบ

สถานะของ Elon Musk จะเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดทิศทางของ DOGE และส่งผลกระทบต่อทั้งวงการธุรกิจ การเมือง และกฎหมาย ขณะที่การต่อสู้ทางกฎหมายที่กำลังเกิดขึ้นจะเป็นบททดสอบใหญ่ถึงความโปร่งใสของ DOGE ที่อาจชี้ชะตาอนาคตของหน่วยงานพิเศษนี้ 

เรื่องราวของ DOGE และ Musk ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของมหากาพย์บทใหม่ในยุค “America First” ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Donald Trump เท่านั้น