หุ้นร่วงท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และสงครามการค้า
ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ เนื่องจากดัชนีหุ้นทั่วโลกร่วงลง จากแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้ค้าในสหรัฐฯ มีข้อมูลอัตราเงินเฟ้อใหม่ที่น่ากังวล และภาษีนำเข้ารถยนต์ของทรัมป์อยู่ที่ 25% และมีแผนจะเก็บภาษีที่กว้างขึ้นมากในสัปดาห์หน้า ยังคงเป็นสาเหตุหลักให้เกิดเรื่องน่าปวดหัวต่อไป
ดัชนีหลักทั้งสามปิดลดลงและขาดทุนติดต่อกันเป็นครั้งที่สาม หุ้นที่ขาดทุนมากที่สุดคือบริการด้านการสื่อสาร สินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยี และตราสารทุนทางการเงิน ส่วนหุ้นสาธารณูปโภคปิดสูงขึ้น
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 1.69% สู่ 41,583.90 จุด
S&P 500 (.SPX) ลดลง 1.97% สู่ 5,580.94 จุด
และ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 2.7% สู่ 17,322.99 จุด
ราคาน้ำมันร่วงลง จากความกังวลว่าสงครามภาษีของสหรัฐฯ อาจก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แต่กลับเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน หลังจากที่วอชิงตันเพิ่มแรงกดดันต่อสมาชิกโอเปก เวเนซุเอลา และอิหร่าน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าร่วงลง 40 เซนต์หรือ 0.5% สู่ระดับ 73.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate ของสหรัฐ (WTI) ร่วงลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนแห่กันไปที่สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดสงครามการค้าโลกที่เกิดจากการเก็บภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 3,074.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 18 ในปีนี้ที่ 3,086.70 ดอลลาร์ในช่วงต้นเซสชั่น
ทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 1.7% ในสัปดาห์นี้ และกำลังอยู่ในทิศทางเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.8% ที่ระดับ 3,114.30 ดอลลาร์